CENTEL คาดรายได้ปี 55 โต 20%, EBITDA เพิ่ม,เล็งรับบริหารโรงแรมเกินเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 9, 2012 15:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินบัญชีและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา(CENTEL) คาดว่ารายได้รวมในปี 55 จะเติบโตประมาณ 20% เป็น 1.37 หมื่นล้านบาท จาก 1.14 หมื่นล้านบาทในปี 54 โดยคาดว่าธุรกิจโรงแรมจะมีรายได้ 5.5 พันล้านบาท และธุรกิจอาหารจะมีรายได้ 8.2 พันล้านบาท

พร้อมคาดว่ากำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปีนี้จะเพิ่มเป็น 3.2 พันล้านบาท จากปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 2.3-2.4 พันล้านบาท

เนื่องจากปีนี้โรงแรมที่เพิ่งลงทุนจะรับรู้รายได้เต็มปี ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา ภูเก็ต ขณะเดียวกันคาดว่าปีนี้อัตราเข้าพักของโรงแรมในเครือทุกแห่งจะเพิ่มเป็นเฉลี่ย 67.6% ซึ่งในเดือน ม.ค.55 มีสัญญาณที่ดี โดยมีอัตราเข้าพักที่ 75% และในเดือน ก.พ.55 ก็ยังดีต่อเนื่องแม้ว่าจะแผ่วลงจากเดือน ม.ค.55 แต่ในเดือน มี.ค.55 มียอดจองกลับมาดี

นายรณชิต คาดว่า ในปีนี้ธุรกิจสดใสตามการท่องเที่ยวของไทย หลังจากหลายประเทศทยอยยกเลิกคำเตือนเข้าประเทศไทย และคาดว่าหากไม่มีปัญหาเรื่องการเมืองและภัยพิบัติ ก็เชื่อว่าการท่องเที่ยวไทยจะดี โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยประมาณ 20 ล้านคนในปีนี้

สำหรับงบลงทุนในปี 55 บริษัทตั้งไว้ที่ 1.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจโรงแรม 700 ล้านบาท เพื่อนำไปปรับปรุงโรงแรมเดิมที่สมุย ภูเก็ต กรุงเทพ พัทยา และหัวหิน ส่วนธุรกิจอาหารใช้งบ 500 ล้านบาทในการขยายสาขาเพิ่มเป๋น 655 สาขา จาก 603 สาขา หรือเพิ่มขึ้น 52 สาขา ทั้งนี้ แหล่งเงินจะมาจากกระแสเงินสด(cashflow)ที่มีอยู่ราว 2.3-2.4 พันล้านบาท

นายรณชิต กล่าวว่า ในส่วนธุรกิจโรงแรมนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าร่วมทุนในโรงแรมในมัลดีฟส์ คาดว่าจะเข้าถือหุ้นราว 50% หรือมูลค่าการลงทุนประมาณกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1/55 ทั้งนี้ โรงแรมในมัลดีฟส์ดังกล่าวเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ขนาด 140 ห้อง

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าเข้าบริหารโรงแรมเชน"เซ็นทารา"จำนวน 10 แห่ง เป็นโรงแรมต่างประเทศ 5 แห่ง และในประเทศ 5 แห่ง แต่ขณะนี้คาดว่าจะทำได้เกินเป้าหมาย โดยในครึ่งปีแรกจะสรุปการเข้าบริหาร 7 โรงแรม และครึ่งปีหลังอีก 8 โรงแรม ทั้งนี้ ในส่วนต่างประเทศ บริษัทมีแผนเข้าบริหารเชนโรงแรมที่ศรีลังกา อินเดีย มอร์ริเชียส, อินโดนีเซีย และจีน

"ในช่วง 2-3 ปี เราลงทุนเยอะ ลงทุนไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท เราพยายามจะรักษา cashflow ก็คิดว่าปีนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวสิ่งที่ลงทุนไป" นายรณชิต กล่าว

ส่วนธุรกิจอาหาร ยอมรับว่ามีการศึกษาอยู่หลายแบรนด์ อย่างไรก็ดี บริษัทเพิ่งเข้าซื้อแบรนด์อาหารญี่ปุ่น 2 แบรนด์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี คือ ร้านอาหารญี่ปุ่น"โอโอโตยา"และ"โยชิโนยะ"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ