ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) หลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยว่าเศรษฐกิจหดตัวลงในไตรมาส 4 ปี 2554 อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,935.13 จุด ลดลง 2.76 จุด หรือเกือบ 0.1%
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรก หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4 ปี 2554 หดตัวลง 0.2% จากไตรมาส 3 อันเนื่องมาจากการลงทุนภาคธุรกิจดิ่งลง 5.6% ทำสถิติร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2554 ซึ่งตอกย้ำถึงความเสี่ยงที่นายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างเชื่องช้าและไม่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวัน หลังจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 75.3 จากระดับ 75.0 ในเดือนม.ค. เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
หุ้น Cove Energy พุ่งขึ้น 21% หลังจาก บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ได้เสนอซื้อหุ้นสามัญที่ออกแล้วและยังไม่ได้ออกทั้งหมดของบริษัท Cove Energy Plc. (Cove) ที่ราคา 220 เพนซ์ต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 1,119.6 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นราคาเสนอซื้อที่สูงกว่ารอยัล ดัทช์ เชลล์ และข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 0.3%
หุ้นบีจี กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาขายหุ้นในกิจการที่ชิลีจำนวน 20%