นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงไฟฟ้าหลายแห่งแสดงความสนใจจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน(Infrastructure Fund)โดยดำเนินการผ่านที่ปรึกษาทางการเงินทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์ คาดว่าในไตรมาส 1/55 จะได้เห็นการยื่นไฟลิ่ง มูลค่าโครงการประมาณ 1-2 พันล้านบาท
"ตอนนี้มีธนาคารและ บล.ที่เป็น FA เข้ามาหารืออยู่หลายราย เพื่อเตรียมเอกสารยื่นไฟลิ่งให้ลูกค้า ซึ่งเป็นธุรกิจโรงไฟฟ้า และพลังงานทางเลือก โดยพบว่าผุ้สอบบัญชีได้เข้าไปดูโครงการนั้นๆแล้วเพื่อจัดทำบัญชีให้เป็นไปตามเกณฑ์ คาดว่าภายในไตรมาส 1 น่าจะเห็นการยื่นไฟลิ่งโครงการแรกได้"นายวรพล กล่าวทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกมีการระดมทุนผ่าน Infrastructure Fund เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องมีการขยายการลงทุนมาก เพราะไทยยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ขณะที่โรงไฟฟ้าจากพลังงานน้ำมีข้อจำกัด
อนึ่ง ที่ประชุมครม.ได้มีมติยกเว้นการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสนับสนุนให้ภาครัฐและเอกชนได้มีช่องทางระดมทุนระยะยาว โดยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ที่เกิดจากการโอนทรัพย์สินให้แก่ผู้โอนทรัพย์สินจากกิจการโครงสร้างพื้นฐานไปยังกองทุน โดยต้องมีสัญญารับโอนคืน หรือมีสัญญาโอนต่อให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งจะได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนโอน การจดทะเบียนการจำนอง และการจดทะเบียนการเช่าเหลือร้อยละ 0.01 (ไม่เกิน 100,000 บาท)
และสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับการยกเว้นภาษีเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันจดทะเบียนกองทุน