สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 65,174 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 41,759 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 64% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 20,470 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี 15 ปี และ 49 ปี (LB133A LB27DA และLB616A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 12,014 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,726 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI12NA) หุ้นกู้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC13OB) และหุ้นกู้ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT183A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 725 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 5,083 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้มีสถานะซื้อสุทธิ 994 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 6,684 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงโดยเฉพาะในพันธบัตรระยะยาว เนื่องจากผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 15 ปี ในวันนี้มี Demand ค่อนข้างน้อย ประกอบกับตลาดเริ่มคาดการณ์ว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากแรงกดดันของเงินเฟ้อ และปริมาณอุปทานของพันธบัตรระยะยาวที่มากขึ้นจากความต้องการระดมทุนของภาครัฐ
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.02% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.39% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10%