สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 61,649 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 50,758 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 82% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 9,524 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 3 ปี และ 5 ปี (LB155A LB15DA และLB176A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6,135 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 965 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI155A) หุ้นกู้ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT183A) และหุ้นกู้ของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW194A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 470 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 6,614 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 5,042 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 5,904 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในตราสารระยะกลาง หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงประมาณ -1 Basis Point โดยภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในวันนี้ มีแรงซื้อจากนักลงทุนเข้ามาในพันธบัตรระยะกลาง อายุ 3 — 5 ปี เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลดลง ในขณะที่ตลาดยังคงรอดูความชัดเจนของมาตรการจัดการหนี้ในกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งอาจทำให้มีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดที่ 3.02% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.38% ปรับตัวลดลง 0.01% จากวันทำการก่อนหน้า