ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ในขณะที่นักลงทุนขานรับรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเชิงบวกของสหรัฐ โดยแรงบวกเมื่อคืนนี้เกิดขึ้น หลังจากที่กระทรวงแรงงานรายงานว่า มีการจ้างงานเพิ่ม 227,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดไว้ ในขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานเดือนก.พ.ยังคงอยู่ที่ 8.3% ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 14.08 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 12,922.02 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 4.96 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 1,370.87 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 17.92 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 2,988.34 จุด
สำหรับสัปดาห์นี้ ดัชนีทั้ง 3 ปรับตัวแตกต่างกัน โดยดาวโจนส์ร่วงลงราว 0.4% S&P 500 แทบไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ Nasdaq บวกราว 0.4%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมาคมสว็อปและตราสารอนุพันธ์ระหว่างประเทศ (ISDA) เปิดเผยเมื่อเย็นวานนี้ว่า การใช้มาตรา collective action clauses (CAC) ของกรีซที่จะบังคับให้นักลงทุนต้องรับการขาดทุนภายใต้การปรับโครงสร้างหนี้ จะกระตุ้นการจ่ายค่าประกันการผิดนัดชำระหนี้ 3 พันล้านยูโร
ก่อนหน้านี้ กรีซสามารถโน้มน้าวให้ผู้ถือพันธบัตรจำนวนมากของส่วนใหญ่ยอมรับการขาดทุนในการลงทุนพันธบัตร ซึ่งจะเป็นการตัดหนี้สูญครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศในประวัติศาสตร์สำหรับกรีซ
นักลงทุนคลายความวิตกที่ทราบว่า ข้อตกลงดังกล่าวช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการล้มละลายระยะสั้น แต่การประกาศของ ISDA ทำให้นักลงทุนบางรายเทขายหุ้นและทำให้ตลาดลดแรงบวกลง
สำหรับตลาดอื่นๆนั้น ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ในขณะที่รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐประจำเดือนก.พ. อยู่ในเชิงบวก ซึ่งหนุนความเชื่อมั่น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.บวก 82 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 107.40 ดอลลาร์/บาร์เรลในตลาด NYMEX และสำหรับสัปดาห์นี้ ราคาบวกขึ้น 70 เซนต์ หรือ 0.66%
ในลอนดอน สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.บวก 54 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 125.98 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับสัปดาห์นี้ ราคาพุ่งขึ้น 2.33 ดอลลาร์ หรือ 1.88% ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลสำคัญๆในการซื้อขายช่วงท้ายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์บวก 1.09% สู่ 80 จุด