ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสื่อสารและกลุ่มเหมืองแร่ ได้บดบังปัจจัยบวกจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในการประชุมครั้งล่าสุด
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5,945.43 จุด ลดลง 10.48 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง ขานรับแถลงการณ์ของเฟดที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะขยายตัวปานกลาง และคาดว่าอัตราว่างงานจะค่อยๆปรับตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ เฟดยืนยันว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงสิ้นปี 2557 เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
แต่ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงในช่วงสาย หลังจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มสื่อสาร นำโดยหุ้นโวดาโฟนร่วงลง 2.4% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นโวดาโฟนลงสู่ระดับ "underperform" จากระดับ "neutral"
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 1.5% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 2.3%
หุ้นสมิธ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตสแกนเนอร์ด้านความปลอดภัยในสนามบิน ร่วงลง 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิหดตัวลง 52% แตะที่ 83.8 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดีดตัวขึ้น 3.9% หลังจากบาร์เคลย์ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของเฟด ขณะที่หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RGS) พุ่งขึ้น 3.1%