"เอ พลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์"จะขาย IPO 60 ล้านหุ้น-เข้าตลาด MAI

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 29, 2012 14:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ. เอ พลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (APLUS) ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2555 โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO)จำนวน 60 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 20.69% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ และบริษัทฯจะนำหุ้นสามัญเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI) โดยมีบริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

วัตถุประสงค์ของการนำเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการปรับปรุงเครื่องมืออุปกรณ์ในธุรกิจเช่าห้องส่ง ระบบตัดต่อ ระบบควบคุมออกอากาศ ประมาณ 30-40% ของเงินที่ได้จากการระดมทุน และคาดว่าจะใช้เงินในปี 2555-2556, ใช้ในโครงการลงทุนในช่องรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องใหม่ ประมาณ 30-40% ของเงินที่ได้จากการระดมทุน และคาดว่าจะใช้เงินในปี 2555-2556, ใช้ในโครงการพัฒนาธุรกิจวิทยุ และการขอใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงเพิ่มเติม ประมาณ 20-30% ของเงินที่ได้จากการระดมทุน และคาดว่าจะใช้เงินในปี 2556-2557 ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยคาดว่าจะใช้ในปี 2555 เป็นต้นไป

บมจ. เอ พลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจสื่อโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม, ธุรกิจวิทยุ และธุรกิจประชาสัมพันธ์ และจัดกิจกรรม สำหรับธุรกิจสื่อโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมปัจจุบันบริษัทฯมีสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม 4 ช่อง คือ ช่องฮิต(Hit Square), ช่องฮิตโกลบอล(Hit Global), เอเชียฮิตส์(Asia Hits) และโอเค ทีวี(OK-TV) ตามลำดับ

ผลการดำเนินงานในปี 2554 บริษัทฯมีรายได้รวม 146.73 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7.61 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 122.66 ล้านบาท หนี้สินรวม 48.79 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 73.87 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 ธ.ค.2554 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 145 ล้านบาท และทุนเรียกชำระแล้ว 115 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ภายหลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วเป็น 145 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 คือ นายเกรียงศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ ถือหุ้น 92.90 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 40.39% ภายหลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 32.03%

บริษัทฯมีนโบบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและ หลังหักสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองอื่น ๆ ที่จำเป็นและเหมาะสม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ