ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) หลังจากที่ปิดในแดนลบ 3 วันติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดคาดหมาย รวมถึงการที่ยูโรโซนตัดสินใจขยายวงเงินในกองทุนช่วยเหลือภูมิภาค
ดัชนี FTSE 100 บวก 26.42 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 5,768.45 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับตัวขึ้น 0.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. โดยการใช้จ่ายผู้บริโภคนับว่ามีความสำคัญ เพราะมีสัดส่วนถึง 70% หรือ 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐ
ขณะเดียวกันรัฐมนตรีคลังของ 17 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ซึ่งอยู่ในระหว่างประชุมร่วมกันที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เห็นชอบให้มีการเพิ่มขนาดของกองทุนช่วยเหลือภูมิภาคจาก 5 แสนล้านยูโร เป็น 8 แสนล้านยูโร (1.1 ล้านล้านดอลลาร์) ประกอบไปด้วยเงินจำนวน 5 แสนล้านยูโรในกองทุน ESM ซึ่งเป็นกองทุนถาวร และอีกส่วนหนึ่งคือเงินกู้ที่ได้มีการอนุมัติให้กับกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส แล้วประมาณ 3 แสนล้านยูโรภายใต้กองทุน EFSF ซึ่งเป็นกองทุนชั่วคราว
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนเชื่อว่าการที่ยูโรโซนมีมติขยายวงเงินในกองทุนช่วยเหลือภูมิภาค จะสามารถป้องกันวิกฤตหนี้กรีซไม่ให้แพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆได้ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย