สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 62,599 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขายรวม 44,794 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 71.56% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 13,801 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 2 ปี 5ปี และ 10 ปี (LB14NA LB155Aและ LB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,251 ล้านบาท หรือคิดเป็น 74% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 463 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือหุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด( TLT136A) หุ้นกู้บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK137Aและหุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ( BAY142B) และโดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 421 ล้านบาท หรือคิดเป็น 91% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 37,009 ล้านบาท บาท นักลงทุนกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศซื้อสุทธิ 2,889 ล้านบาท และกลุ่มของและนักลงทุนต่างชาติมีสถานะ ซื้อ สุทธิ 891 ล้านบาท
วันนี้ yield curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร ตลาดค่อนข้างเงียบเนื่องจากเป็นวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ตั๋วเงินคลังรุ่นที่มีการประมูลในวันนี้มีการซื้อขายในตลาดรองค่อนข้างน้อย ซึ่งนักลงทุนมองว่าจากการมี Supply พันธบัตรอายุ 6 เดือนค่อนข้างมาก ในขณะที่ตลาดยังคงจับตามองปัจจัยใหม่ ๆ ที่จะเข้ามากระทบกับตลาดโดยเฉพาะ fund flow จากนักลงทุนต่างชาติ ด้านนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 891 ล้านบาท
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดที่ 3.05% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01%และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.61% ปรับตัวลดลง 0.01%