ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 เม.ย.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถชดเชยปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดขึ้น 0.8% ปิดที่ 259.12 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3266.27 จุด บวก 36.95 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6801.32 จุด บวก 61.42 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5777.11 จุด บวก 28.39 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2555 ซึ่งขยายตัวที่ระดับ 2.2% ต่อปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 2.5% และน้อยกว่าไตรมาส 4/2554 ที่ขยายตัว 3.0% เนื่องจากภาคธุรกิจปรับลดการลงทุนและการเก็บสต๊อกสินค้า
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากนั้น เพราะได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน โดยเฉพาะบริษัทกลุ่มก่อสร้าง โดยหุ้นวินซี ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างรายใหญ่สุดของยุโรป พุ่งขึ้น 4.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 6% สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้น CRH ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้น Eiffage ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 5.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน
แมน กรุ๊ป ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่สุดของยุโรป พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดที่ 14% หลังมีกระแสข่าวเรื่องการเทคโอเวอร์กิจการ บริทิช แลนด์ บวก 2.8% หลังได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนในหุ้น