นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2555 มีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นประจำปี โดยใช้เวลาประมาณ 30 วัน พร้อมเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมันดีเซลและเครื่องบินมากขึ้น และเพิ่มกำลังกลั่นเฉลี่ยประมาณ 110,000 บาร์เรลต่อวัน คาดว่าค่าการกลั่นพื้นฐานในไตรมาส 2 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีราว 6-7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
สำหรับการขยายธุรกิจใหม่พลังงานทดแทนจากเซลล์แสงอาทิตย์ จะดำเนินการสร้างในระยะที่ 3 ควบคู่กับการสร้างระยะที่ 2 ที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้มีการผลิตไฟฟ้ารวม 170 เมกะวัตต์ และเมื่อทั้งหมดแล้วเสร็จจะทำให้มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) รวมทั้งสิ้น 2,800 ล้านบาท ก้าวสู่เป้าหมายการผลิตและจำหน่ายให้ได้ 500 เมกะวัตต์ สร้างรายได้เพิ่ม และเป็นพลังงานสำรองให้กับประเทศ เพื่อรองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซี่ยนในปี 2558
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปี 2555 นายอนุสรณ์ กล่าวว่า มีกำไรจากการดำเนินของบางจากฯ บริษัทย่อยที่ถือหุ้นและกำไรจากการบริหารความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน รวมสุทธิ 2,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.77 บาท โดยมีรายได้ 47,610 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 33% เนื่องจากมีการขยายฐานลูกค้ามากขึ้น มีการปรับปรุงภาพลักษณ์ มีกิจกรรมและโปรแกรมที่เข้าถึงลูกค้า รวมทั้งขยายการจำหน่ายพลังงานทดแทนแก๊สโซฮอลล์ E20, E85 และมีการส่งเสริมบัตรดีเซลคลับทำให้สมาชิกเพิ่มขึ้นและมาใช้บริการผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากมากขึ้น รวมทั้งผลิตน้ำมันที่มีคุณภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นที่ต้องการของลูกค้า
ขณะที่ธุรกิจด้านการกลั่นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการกลั่นเฉลี่ย 101,000 บาร์เรลต่อวัน มีค่าการกลั่นอยู่ในเกณฑ์ดีเมื่อรวมกับกำไรจากสต็อกน้ำมันทำให้มีค่าการกลั่นอยู่ที่ระดับ 12.53 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และเมื่อรวมกับกำไรธุรกิจด้านการตลาดที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 ทำให้มี Gross Integrated Margin: GIM เพิ่มเป็น 15.18 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล