ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,228.49 จุด เพิ่มขึ้น 16.71 จุด(+1.38%)มูลค่าการซื้อขาย 28,284.99 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่อยู่ระดับ 1,228.49 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,217.91 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 291 หลักทรัพย์ ลดลง 194 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 170 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี โดยดัชนีฯขึ้นทำ New high ทะลุ high เดิมที่ 1,214 จุดขึ้นไปได้ ซึ่งตลาดบ้านเราบวกได้แรงกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างก็อยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า โดยรับแรงซื้อหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน
ทั้งนี้ การที่ตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นได้ดี คงเป็นผลจากที่นักลงทุนต่างชาติได้กลับมาซื้ออีกครั้ง ทำให้ Sentiment ของตลาดฯดี ประกอบกับได้แรงหนุนจากปัจจัยนอกประเทศด้วยในเรื่องของความคาดหวังที่สหรัฐฯอาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE)ออกมา ภายหลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตัวเลข GDP ของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าที่คาด ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง และเงินบาทไทยก็แข็งค่าขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี ในช่วงท้ายตลาดฯจะเห็นได้ว่าก็มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้างเหมือนกัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะวันพรุ่งนี้(1 พ.ค.)ตลาดบ้านเราจะหยุดทำการ 1 วันเนื่องในวันแรงงาน
นอกจากนี้ ในวันพุธที่จะถึงนี้(2 พ.ค.)ก็จะมีการประชุมกนง.ด้วย จึงควรจะติดตามในประเด็นของอัตราดอกเบี้ย และมุมมองด้านเศรษฐกิจของไทยด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพุธที่จะถึงนี้(2 พ.ค.)น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังมี Sentiment เชิงบวกอยู่ หากไม่มีปัจจัยลบอะไรเข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,220-1,215 จุด ส่วนแนวต้าน 1,230-1,235 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,672.42 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,399.41 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,219.61 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,188.22 ล้านบาท ปิดที่ 191.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,069.22 ล้านบาท ปิดที่ 68.75 บาท ลดลง 0.50 บาท