นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ(SIRI) เปิดเผยว่า ในเดือน เม.ย.55 บริษัททำยอดขายได้ถึง 3,000 ล้านบาท ขณะที่มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในต่างจังหวัด 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 10,000 ล้าน หรือคิดเป็น 22% จากเป้าหมายมูลค่าการเปิดตัวโครงการรวมในปี 55 จำนวน 46,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการต่างจังหวัด 15 โครงการ ประกอบด้วย โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลหัวหิน จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,550 ล้านบาท, โครงการอยู่อาศัยใน จ.ภูเก็ต 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,000 ล้านบาท, โครงการในทำเลเขาใหญ่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท และโครงการใหม่ใน จ.ขอนแก่น 1 โครงการ มูลค่าโครงการ 630 ล้านบาท รวมทั้ง โครงการที่อยู่อาศัยในพัทยา 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาท
บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เพิ่มเติมในทำเลหัวเมืองต่างจังหวัด อาทิ ขอนแก่น พัทยา เพื่อขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง หลังจากมีความมั่นใจจากกระแสการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในภูเก็ตและหัวหินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 54 ที่ประสบความสำเร็จจากการปิดการขาย 3 โครงการคอนโดมิเนียม สไตล์รีสอร์ทตากอากาศในทำเลหัวหินจำนวนทั้งสิ้น 708 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 1,730 ล้านบาท ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
และในจ.ภูเก็ต ซึ่งได้เปิดตัวโครงการและปิดการขายคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “ดีคอนโด" ทั้ง 2 โครงการได้แก่ ดีคอนโด กะทู้ ปิดการขายจำนวน 556 ยูนิตได้ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งวัน ของการเปิดพรีเซลล์วันแรกและ ดีคอนโด กะทู้ — ป่าตอง ปิดการขายจำนวนถึง 653 ยูนิต ภายในระยะเวลาเพียง 1 วัน ของช่วงเปิดพรีเซลล์
“บริษัทมีความมั่นใจกับการตอบรับของลูกค้าในตลาดต่างจังหวัดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุดกับความสำเร็จจากการปิดการขาย 3 โครงการคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทตากอากาศในทำเลหัวหิน ได้แก่ บ้านคุ้นเคย - บ้านคู่เคียง และซัมเมอร์ จำนวนทั้งสิ้น 708 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 1,730 ล้านบาท ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการขยายตลาดที่อยู่อาศัยในจ.ภูเก็ต ซึ่งได้เปิดตัวโครงการและปิดการขายคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “ดีคอนโด” ทั้ง 2 โครงการภายในระยะเวลารวดเร็ว ได้แก่ ดีคอนโด กะทู้ ปิดการขายจำนวน 556 ยูนิต ได้ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งวัน ของการเปิดพรีเซลล์วันแรกในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา และ ดีคอนโด กะทู้ — ป่าตอง ปิดการขายจำนวนถึง 653 ยูนิตได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 วัน ของช่วงเปิดพรีเซลล์ 27 — 29 มกราคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้น บริษัทได้เดินหน้าตามแผนการดำเนินงานโดยการส่งโครงการ ฮาบิเทีย บ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น จำนวน 244 หลัง ตอบรับกระแสความต้องการกลุ่มคนทำงานหรือนักธุรกิจที่ต้องการที่อยู่อาศัยในรูปแบบของบ้านคุณภาพ ที่มีดีไซน์ตอบสนองชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว โดยสามารถปิดยอดขายไปกว่า 70% หลังเปิดการขายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน"นายเศรษฐา กล่าว