ADVANC คงเป้าปี 55 หลังแจงกำไรสุทธิ Q1 โต 42% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 4, 2012 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) คงเป้าหมายทางธุรกิจในปี 55 หลังจากแจ้งงบการเงินไตรมาส 1/55 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 42%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทคาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (IC)ทั้งปีนี้เติบโต 5-6% รายได้จากการให้บริการข้อมูลเติบโต 25% รายได้จากการขายอุปกรณ์เติบโตมากกว่า 10% และ EBITDA MARGIN อยู่ในระดับ 44% ขณะที่เงินลงทุนโครงข่ายในปีนี้ตั้งงบไว้ 8 พันล้านบาท ซึ่งใช้ไปแล้วในไตรมาส 1/55 ราว 1.8 พันล้านบาท

ADVANC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/55 ที่ 8,926 ล้านบาท จากไตรมาส 1/54 ที่มีกำไรสุทธิ 6,269 ล้านบาท ปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของรายได้ทั้งจากการบริการและการขายอุปกรณ์ รวมทั้งการลดลงของค่าตัดจำหน่ายโครงข่าย ค่าใช้จ่ายทางการเงินและภาษีเงินได้นิติบุคคลอีกทั้งในไตรมาสนี้ไม่มีการบันทึกการด้อยค่าความนิยมดังเช่นเมื่อปีก่อน

ทั้งนี้ รายได้รวมเพิ่มขึ้น 13% เป็น 35,178 ล้านบาทในไตรมาส 1/55 จาก 31,148 ล้านบาท ในไตรมาส 1/54 เนื่องจากการเติบโตของรายได้ทั้งจากการให้บริการและรายได้จากการขาย โดยที่รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 11% จาก 27,587 ล้านบาท เป็น 30,541 ล้านบาทในไตรมาส 1/55 เป็นผลมาจากทั้งการใช้งานการโทรที่เพิ่มขึ้นและความนิยมของผู้บริโภคต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือที่เติบโตรวดเร็ว

นอกจากนี้การขายอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นยังมีส่วนทำให้รายได้จากการขายเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4,636 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาส 1/54

ค่าตัดจำหน่ายโครงข่ายในไตรมาสนี้ลดลงจาก 4,365 ล้านบาท ในไตรมาส 1/54 เป็น 3,867 ล้านบาท หรือลดลง 11% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ต้นทุนการให้บริการและการขายโดยรวมทรงตัวส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.4% เป็น 2,556 ล้านบาท ในไตรมาส 1/55

ค่าใช้จ่ายทางการเงินและภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ลดลงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้กำไรเติบโตเกินกว่า 20% จากการที่บริษัทจ่ายชำระคืนหนี้ในระหว่างปี 2554 ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการเงินในไตรมาสนี้ลดลงจาก 431 ล้านบาท เป็น 287 ล้านบาท หรือลดลง 33% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและนโยบายการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลของภาครัฐทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีลดลงจาก 2,892 ล้านบาท เป็น 2,701 ล้านบาท หรือลดลง 6.6% นอกจากนี้ ในปีที่แล้วรอบไตรมาสแรกมีการบันทึกการด้อยค่าความนิยมเป็นจำนวน 386 ล้านบาท ซึ่งได้บันทึกจนหมดสิ้นไปแล้วในสิ้นปีจึงไม่มีการบันทึกอีกในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ