LANNA เผยกำไร Q1/55 ทรงตัวแม้ราคาถ่านหินต่ำ แต่เอทานอล-เงินประกันหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 9, 2012 11:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนันต์ เล้าหเรณู กรรมการบริหาร บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า กำไรไตรมาส 1/55 คาดจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/54 ที่มีกำไร 293 ล้านบาท แม้ราคาขายถ่านหินจะต่ำกว่าปีก่อน แต่ได้กำไรจากธุรกิจเอทานอลราว 30-40 ล้านบาทเข้ามาช่วย พลิกจากงวดเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน ประกอบก้บ บริษัทได้รับเงินชดเชยน้ำท่วมจากบริษัทประกันเข้ามาราว 28 ล้านบาทที่จะบันทึกในไตรมาสนี้

"กำไรไตรมาส 1/55 น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/54 ถ้าจะมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ไม่มาก ถึงราคาถ่านหิน spot ไม่ดี แต่จะได้กำไรจากเอทานอลเมื่อบวกกำไรจากธุรกิจถ่านหินก็น่าจะใกล้เคียงปีก่อน"นายอนันต์ กล่าว

สำหรับปริมาณขายถ่านหินในไตรมาสแรกอาจจะออกมาใกล้เคียงหรือต่ำกว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่ราว 1 ล้านตันเศษ เนื่องจากราคาขายในตลาด spot ค่อนข้างต่ำ บริษัทจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องขายออกไปมาก เพราะนโยบายคือไม่เน้นปริมาณแต่เน้นที่ราคา ดังนั้น ส่วนใหญ่เป็นขายให้กับลูกค้าที่ทำสัญญาไว้แล้ว

ทั้งนี้ ราคาถ่านหินเฉลี่ยในไตรมาส 1/55 ต่ำกว่าปีก่อน โดยในปี 54 ราคาถ่านหินจากเหมือง 2 แห่ง คือ เหมือง LHI อยู่ที่ 60 เหรียญ/ตัน และเหมือง SGP อยู่ที่ 90 เหรียญ/ตัน

นายอนันต์ กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าปริมาณขายถ่านหินในปีนี้ไว้ที่ 7 ล้านตัน สูงกว่าปีก่อนที่ยอดขายที่ 5.13 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม หากราคาขายยังไม่ปรับตัวดีขึ้นบริษัทก็อาจจะไม่เร่งขายออกไป แต่ก็เชื่อว่าครึ่งปีหลังราคาถ่านหินน่าจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ขณะที่ในแง่ของกำไรปี 55 คาดว่าจะรักษาอัตราการทำกำไรไม่ให้ต่ำกว่าปีก่อน ซึ่งในปี 54 บริษัทมีกำไร 1,043 ล้านบาท โดยในปีนี้กำไรส่วนหนึ่งจะมาจากธุรกิจเอทานอลราว 200 ล้านบาท พลิกจากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 33 ล้านบาท แต่กำไรส่วนใหญ่ยังมาจากธุรกิจถ่านหิน ตามที่คาดการณ์ว่าครึ่งปีหลังราคาขายน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก

ธุรกิจเอทานอลในปีนี้บริษัทตั้งเป้าปริมาณการผลิตที่ 3.5 แสนลิตร/วัน โดยจะมาจากโรงงานแห่งที่ 1 ราว 1.5 แสนลิตร/วัน และโรงงานแห่งที่ 2 ที่เริ่มผลิตแล้วเมื่อต้นไตรมาส 2/55 กำลังผลิตเต็มที่ 2 แสนลิตร/วัน ซึ่งตั้งเป้าอัตราการใช้กำลังผลิต 70% ของกำลังผลิตรวม หรือปริมาณประมาณ 70 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ผลิตได้ 46 ล้านลิตร

ในด้านราคาขาย ช่วงไตรมาส 1/55 ราคาขายเอทานอลอยู่ที่ 18-19 บาท/ลิตร ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ในระดับกว่า 20 บาท/ลิตร แต่ต้นทุนกากน้ำตาลที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปรับลดลง 40% มาอยู่ที่ 3,000 บาท/ตัน จากปีก่อนอยู่ในระดับสูงถึง 5,000 บาท/ตัน เป็นผลจากปริมาณผลผลิตอ้อยออกมามาก เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

นายอนันต์ ยังเปิดเผยถึงการเจรจาซื้อเหมืองใหม่ที่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซียว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งล่าช้าไปจากเดิมที่คาดว่าจะสรุปได้ภายในเดือนเม.ย.สาเหตุมาจากข้อติดขัดเรื่องทางราชการของอินโดนีเซีย ไม่ได้ช้าที่ขั้นตอนของบริษัท ดังนั้นจึงยังบอกไม่ได้ว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อใด

"เงื่อนไขคือบริษัทจะต้องถือหุ้นเกิน 51% และมีอำนาจในการบริหาร เราไม่ได้เร่งร้อนเพราะการที่จะต้องใช้เงินจำนวนมากไปซื้อของต้องให้แน่ใจก่อน การซื้อเหมืองตอนนี้ราคาแพงกว่าที่ซื้อเหมืองแห่งที่ 1 เกือบ 200%"นายอนันต์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ทางการอินโดนีเซียประกาศเก็บภาษีส่งออกสินแร่ แต่ไม่รวมถึงถ่านหินนั้น นายอนันต์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องดี ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ไม่เคยเสียภาษีส่งออกถ่านหินอยู่แล้ว แต่ก็ทำให้ข้อกังวลตรงนี้ก็หมดไป อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตมีการจัดเก็บภาษีในส่วนนี้ก็อาจจะต้องผลักภาระให้กับลูกค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ