ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มธนาคาร
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5543.95 จุด บวก 13.90 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และยังได้ตัดสินใจที่จะไม่ขยายโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มูลค่า 3.25 แสนล้านปอนด์ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) วันนี้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
หุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิง พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ปรับตัวขึ้น 3.2% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ดีดตัวขึ้น 1.9%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นคาซัคมิส พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นริโอทินโต ดีดตัวขึ้น 0.7% และหุ้นเวแดนตา รีซอสเซส ทะยานขึ้น 2.7%
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษในเดือนมี.ค.ลดลง 0.3% จากเดือนก.พ. และร่วงลง 2.6% เมื่อเทียบรายปี และหากเทียบรายไตรมาส การผลิตในช่วงไตรมาสแรกปรับลง 0.4% จากช่วงไตรมาส 4 ปี 2554
ขณะที่ตัวเลขการผลิตในภาคการผลิตเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก.พ. แต่ปรับตัวลง 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้การผลิตในภาคอุตสากรรมของอังกฤษอยู่ในภาวะอ่อนแรงก็คือ การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ไฟฟ้า และก๊าซที่ลดลง
ส่วนการผลิตในภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากการปรับตัวขึ้นของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เคมีภัณฑ์ คอมพิวเตอร์ และอิเลคทรอนิค