นายมารุต แสงศาตรา ผู้ช่วยเลขานุการบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไดนาสตี้ เซรามิค(DCC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้ปี 55 เหลือเติบโต 10% จากเดิมตั้งเป้าโต 15% หลังจากไตรมาส 1/55 รายได้เติบโตเพียง 4% ขณะที่ตลาดรวมเติบโต 6% เนื่องจากบริษัทเสียส่วนแบ่งการตลาดไป เพราะปัญหาขาดแคลนรถขนส่ง แม้ว่าจะมีออร์เดอร์มีเข้ามามาก แต่ไม่สามารถส่งของได้ทันตามกำหนด ทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจไปอย่างมาก
อย่างไรก็ดี ในเดือน พ.ค. นี้ บริษัทสามารถแก้ไขปัญหาและยอดขายกลับมาเป็นปกติ คาดว่ายอดขายในไตรมาส 2/55 จะดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี ไตรมาส 2/55 เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ยอดขายจึงไม่หวือหวา
นายมารุต คาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่ายอดขายจะกลับมาเติบโตมาก เนื่องจากบริษัทได้จัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการขายตั้งแต่เดือน พ.ค.นี้ เลื่อนขึ้นมาเร็วขึ้นจากแผนเดิมในเดือนมิ.ย. ประกอบกับ บริษัทได้ปรับราคาขายเป็น 133 บาท/ตร.ม. จาก 129 บาท/ตร.ม.เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และจะมีการปรับอีกครั้งเพื่อให้สิ้นปีราคาขายสูงขึ้นเป็น 135 บาท/ตร.ม.
การปรับราคาครั้งนี้ บริษัทต้องการให้อัตรากำไรขั้นต้นกลับมาที่ระดับ 41-42% จากไตรมาส 1/55 อยู่ที่ 39.6% และทำให้อัตรากำไรสุทธิกลับมาอยู่ที่ระดับ 18% จากไตรมาส 1/55 อยุ่ที่ 17.6% เนื่องจากไตรมาส 1/55 มีต้นทุนสูงขึ้นจากราคาก๊าซที่ปรับขึ้น 27% มาเป็น 429 บาท/ล้าน ลบ.ม.ถือว่าราคาสูงสุดเท่าที่มีมา และเชื่อว่าหลังจากนี้ราคาก๊าซคงจะไม่ปรับขึ้นมากกว่านี้แล้ว
ในปีนี้บริษัทเตรียมงบลงงทุน 455 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนเปิดสาขาใหม่พร้อมซื้อที่ดินรวม 200 ล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ 15 สาขา ที่เหลืออีก 200 กว่าล้านบาทจะนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพเตาเผาจำนวน 3 เตา ลงทุนเตาละ 80 ล้านบาท เพื่อให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 5% ภายในสิ้นปีนี้จะมีกำลังการผลิตเป็น 64 ล้านตร.ม. จาก 61.8 ล้านตร.ม.ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/56 บริษัทยังเตรียมแผนปรับกลยุทธ์การขนส่ง โดยจะเพิ่มค่าจ้างให้รถขนส่งในช่วง ก.พ.- เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ
นายมารุต เปิดเผยแผนในช่วง 5 ปี (ปี 55-60) บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 80 ล้าน ตร.ม./ปี หรือเพิ่มเป็นวันละ 1.1 หมื่นตร.ม. จากวันละ 9 พัน ตร.ม.ในปัจจุบัน เพราะมองว่าแนวโน้มความต้องการกระเบื้องในตลาดยังขยายตัวต่อเนื่องปีละประมาณ 6%