โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"INTUCH เล็งเข้า SET50 กลางปี-ราคาหุ้นยังถูก-กำไรโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 30, 2012 15:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้นบมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น(INTUCH)เล็งได้รับคัดเลือกเข้าไปอยู่ในกลุ่ม SET50 กลางปีนี้ หลังฟรีโฟลทเกิน 50%, มาร์เก็ตแคปใหญ่ขึ้น และสภาพคล่องการซื้อขายดีขึ้น

INTUCH เป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ที่ถือหุ้นในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี คือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) และบมจ.ไทยคม(THCOM) ซึ่งรายได้ของ INTUCH ส่วนใหญ่จะมาจากการลงทุนใน ADVANC สัดส่วนการถือหุ้น 40.45% คาดว่าปีนี้ADVANC จะมีกำไรโตสูงถึง 57% ส่วนแบ่งกำไรก็จะสูงตามไปด้วย ดังนั้น กำไรของ INTUCH ในปีนี้ก็จะมีการเติบโตดีมากเช่นเดียวกับ ADVANC ส่วน THCOM ปีนี้ก็คาดว่าผลประกอบการจะพลิกฟื้นขึ้นมาเป็นกำไรได้

ดังนั้น ถ้าหากจะเลือกลงทุนหุ้น INTUCH กับ ADVANC ก็คงจะเลือกลงทุนหุ้น INTUCH มากกว่า เพราะ Value ของหุ้น INTUCH ในปัจจุบันยังถูกอยู่ และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ในเกณฑ์ดี

ล่าสุด เมื่อ 15.20 น.หุ้น INTUCH อยู่ที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท(+1.75%)มูลค่าซื้อขาย 934.44 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 55 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุด 57 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุด 55.25 บาท

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ       ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.บัวหลวง             ซื้อ               80.00
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส      ซื้อ               78.00
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส        ซื้อ               72.00
          บล.เอเชีย พลัส          ซื้อ               72.00
          บล.ไทยพาณิชย์           ซื้อ               75.00
          บล.เคที ซีมิโก้           ซื้อ               73.00
          บล.ทิสโก้               ซื้อ               68.00

นายกวี มานิตสุภวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส แนะ"ซื้อ"หุ้น INTUCH โดยมองว่ารายได้ของ INTUCH ส่วนใหญ่จะมาจากการลงทุนใน ADVANC สัดส่วนการถือหุ้น 40.45% ซึ่งปีนี้คาดว่า ADVANC จะมีกำไรเติบโตสูงถึง 57% ดังนั้น ส่วนแบ่งกำไรก็จะสูงตามไปด้วย ส่วน THCOM ปีนี้ก็คาดว่าผลประกอบการจะพลิกฟื้นขึ้นมาเป็นกำไรได้

นอกจากนี้ ในช่วงกลางปีนี้จะมีการคัดเลือกหุ้นที่จะเข้าไปอยู่ในกลุ่ม SET50 ซึ่ง INTUCH ก็เป็นตัวหนึ่งที่คาดว่าจะได้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม SET50 รอบใหม่นี้ด้วย เนื่องจากมาร์เก็ตแคปของ INTUCH ใหญ่ขึ้น และฟรีโฟลทก็อยู่ในระดับเกิน 20% แล้ว ประกอบกับสภาพคล่องการซื้อขายหุ้น INTUCH ก็ดีขึ้นด้วย

พร้อมคาดการณ์กำไรปกติของหุ้น INTUCH ในปี 55 ไว้ที่ 14,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% จากปีก่อน แต่หากคิดในส่วนของกำไรสุทธิปีนี้จะลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากปีที่แล้วมีรายการพิเศษกำไรจากการขายหุ้น ADVANC ประมาณ 7,200 ล้านบาท

ด้านนายฐาปน พานิช นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า INTUCH เป็นหุ้นที่น่าซื้อตัวหนึ่ง เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจาก ADVANC หรือ AIS โดย INTUCH เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ถือหุ้น 40% ใน ADVANC รวมถึง Valuation ของ INTUCH ประมาณ 90% ก็มาจาก ADVANC ดังนั้น ถ้าหากจะเลือกลงทุนหุ้น INTUCH กับ ADVANC ก็คงจะเลือกลงทุนหุ้น INTUCH มากกว่า เพราะ Value ของในปัจจุบันยังถูกอยู่

"ตราบใดที่รัฐบาลชุดนี้ยังอยู่ในวงการนี้ และ Demand ที่ยังสูง หุ้น INTUCH และ AIS ก็ซื้อได้"นายฐาปน กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของ ADVANC ก็เชียร์ให้"ซื้อ"พร้อมจัดให้อยู่ในกลุ่ม Top Picks ด้วยราคาเป้าหมายที่ 210 บาท ซึ่งมองว่ารายได้ของ ADVANC ในปีนี้จะดีมาก จากทั้งรายได้ง Data และ Voice อีกทั้งสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของ ADVANC คือ สัมปทานคลื่น 1800 ที่จะหมดในปีหน้าและจะเปลี่ยนเป็นไลเซ่นส์แทน จะทำให้ ADVANC มีค่าใช้จ่ายที่น้อยลงและรายได้ก็น่าจะดีขึ้น

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 55 ของ ADVANC ไว้ที่ 36,000 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 12.5 บาท เติบโตจากปีที่แล้ว(2554)ประมาณ 64-65%

ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ปัจจัยบวกของหุ้น INTUCH คือ ราคาหุ้นปัจจุบันมีส่วนลดถึง 23% จาก Market NAV และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ในเกณฑ์ดี คือปี 55 เป็น 6.7% และปี 56 เป็น 8.3% รวมทั้งยังมีส่วนเพิ่มได้อีก 40% เทียบกับ Break-up NAV ที่ 78.00 บาท

ประเด็นการเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ที่ถือหุ้นในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี คือ ADVANC และ THCOM โดย INTUCH ได้รับกำไรและมีมูลค่าแทบจะทั้งหมดมาจาก ADVANC สำหรับ ADVANC (ซื้อ, ราคาพื้นฐาน 200 บาท) คาดว่าอัตราการเติบโตกำไรสุทธิปีนี้จะสูงมากถึง 53% อีกทั้งหากได้รับใบอนุญาต 3G ในอนาคต มูลค่าพื้นฐานก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นได้ไปอีก

ส่วน THCOM (ซื้อ, ราคาพื้นฐาน 16.75 บาท) แนวโน้มผลประกอบการจะฟื้นตัวดีขึ้น แรงผลักดันสำคัญมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของ iPSTAR จากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัทด้วยราคาพื้นฐานของบริษัทที่ถือหุ้นอยู่(Break-up NAV)พบว่าสูงมากเป็น 78.00 บาท ราคาปิดยังมีส่วนเพิ่มเทียบกับ Break-up NAV ได้อีกถึง 40%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ