ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กผิดหวังตัวเลขจ้างงานกดดาวโจนส์ปิดร่วง 124.20 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday July 7, 2012 06:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ ภายหลังกระทรวงแรงงานเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.เพิ่มน้อยเกินคาดและอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 124.20 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 12,772.47 จุด หลังจากที่ร่วงลงหนักถึง 193 จุดในช่วงแรกของการซื้อขาย

ดัชนี S&P 500 ลดลง 12.90 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 1,354.68 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 38.79 จุด หรือ 1.30% ปิดที่ 2,937.33 จุด

สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.84%, S&P ลดลง 0.55% ขณะที่ NASDAQ ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.08%

นักลงทุนเทขายหุ้น เนื่องจากรู้สึกผิดหวังกับรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย. ที่เพิ่มขึ้นเพียง 80,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 90,000-100,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.2% ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ส่วนใหญ่

ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังอ่อนแรง ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว โดยถึงแม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกันแล้ว แต่อัตราขยายตัวยังคงต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

โดยตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 77,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 69,000 ตำแหน่งในรายงานเบื้องต้น ขณะที่ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 68,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจาก 77,000 ตำแหน่งในรายงานก่อนหน้านี้

เท่ากับว่าในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.นั้น สหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียงเดือนละ 75,000 ตำแหน่ง ซึ่งคิดเป็นเพียงประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวน 226,000 ในช่วงไตรมาสแรก และถือเป็นตัวเลขที่ยังห่างไกลจากการที่จะฉุดให้อัตราว่างงานสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูงปรับตัวลดลงมาได้

นักลงทุนวิตกว่า สถานการณ์ด้านแรงงานอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งยิ่งจุดปะทุความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากการใช้จ่ายส่วนบุคคลคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของเศรษฐกิจประเทศ

โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค. ทรงตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน แม้ว่ารายได้ส่วนบุคคลจะขยายตัวขึ้นก็ตาม บ่งชี้ว่า การขยายตัวของการจ้างงานที่ชะงักงันและความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยุโรปกำลังส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการใช้จ่ายที่ลดลงของผู้บริโภคอาจส่งผลกระทบสืบเนื่องไปถึงการขยายธุรกิจของบรรดาผู้ผลิตและโรงงานต่างๆ

การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2554 โดยการใช้จ่ายส่วนบุคคลในเดือนเม.ย.ถูกปรับทบทวนลงเป็นขยายตัวเพียง 0.1% จากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในรายการก่อนหน้านี้

นอกจากข้อมูลแรงงานที่น่าผิดหวังแล้ว บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับผลกระทบจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสเปนพุ่งขึ้นเหนือ 7% ซึ่งถือเป็นระดับที่อันตราย

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นนิวยอร์กพยุงตัวขึ้นได้บ้างในช่วงก่อนปิดตลาด จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น ประกอบกับมีแรงช้อนซื้อเข้ามาสำหรับหุ้นบางตัวที่ถูกมองว่ามีมูลค่าต่ำเกินไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ