ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลง 55 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 12,672 จุด และดัชนี S&P 500 ร่วงลง 0.5% แตะที่ 1,345.6 จุด ณ เวลา 07.20 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรร่วงลงอย่างหนักในรอบ 7 ปี
ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนญี่ปุ่น ร่วงลง 14.8% เดือนพ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 6.719 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 7 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของการลงทุนในสินค้าด้านทุน อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนและการแข็งค่าของสกุลเงินเยน โดยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรถือเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงระดับการประเมินภาวะการลงทุนด้านสินค้าทุนของภาคเอกเชนเอาไว้เท่าดิม โดยระบุว่า ที่ผ่านมานั้น ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร "ปรับตัวขึ้นปานกลาง" ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนพ.ค.ปรับตัวลดลงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นการปรับฐานจากเดือนก่อน โดยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7%
นอกจากนี้ ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นทรุดฮวบลง 62.6% ในเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ 2.151 แสนล้านเยน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น 11.3% สู่ระดับ 5.0542 ล้านล้านเยน และเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่มูลค่าการนำเข้ามีจำนวนที่สูงกว่า โดยเพิ่มขึ้น 11.1% แตะที่ 5.9025 ล้านล้านเยน และเพิ่มขึ้นติดต่อกันมานานกว่า 2 ปี ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้ามูลค่า 8.482 แสนล้านดอลลาร์
หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลง 0.9% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวลง 0.6% หุ้นอัลโค อิงค์ ร่วงลง 0.6% และหุ้นมาสเตอร์การ์ด อิงค์ ดิ่งลง 1%