ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นานในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อเครื่องจักรที่หดตัวลงอย่างหนักของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจและปัญาหาหนี้ยูโรโซนยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 17.63 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 12,754.84 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 4.64 จุด หรือ 0.34% แตะที่ 1,349.48 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 8.11 จุด หรือ 0.28% แตะที่ 2,929.55 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากประเทศต่างๆในเอเชียเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนญี่ปุ่น ร่วงลง 14.8% เดือนพ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 6.719 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 7 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของการลงทุนในสินค้าด้านทุน อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนและการแข็งค่าของสกุลเงินเยน โดยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรถือเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชน
ขณะที่จีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 2.2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2553 โดยดัชนี CPI เดือนมิ.ย.ชะลอลงจากเดือนพ.ค.ที่ขยายตัว 3.0% และชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 3.4%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนอายุ 10 ปีพุ่งเหนือ 7% ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีดีดตัวขึ้นเหนือ 6% ก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนที่จะมีขึ้นในวันนี้ ตามเวลายุโรป ซึ่งอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า 7% ถือว่าเป็นระดับที่ไม่สามารถบริหารจัดการได้ในระยะยาว
หุ้นอัลโค อิงค์ ร่วงลง 0.9% หุ้นวีซา อิงค์ และหุ้นมาสเตอร์การ์ด ร่วงลงอย่างน้อย 3% ส่วนหุ้นโบอิ้งดีดตัวขึ้น 1.1% หลังจากมีรายงานว่าโบอิ้งได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินในงานแสดงอากาศยานที่ฟาร์นโบโรห์ เป็นมูลค่า 7.2 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนรอดูผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการในวันนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมรมว.คลังยูโรโซนซึ่งเริ่มขึ้นในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยคาดว่าที่ประชุมจะหาลู่ทางในการช่วยกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของสเปน ขณะเดียวกันคาดว่ามาตรการการปล่อยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารของสเปนจะมีความคืบหน้ามากขึ้น และคาดว่าที่ประชุมจะผ่อนปรนเป้าหมายด้านการเงินของรัฐบาลสเปนเช่นกัน