หุ้นยุโรปปรับตัวลดลงต่อเนื่องในวันนี้ หลังจากยอดสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นลดลงหนักสุดในรอบกว่า 7 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้นเหนือระดับอันตรายที่ 7% ในขณะที่รัฐมนตรีคลังยุโรปมีกำหนดประชุมร่วมกันเป็นเวลา 2 วันในวันนี้และพรุ่งนี้ ที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินมาตรการสู้วิกฤตที่ผู้นำยุโรปได้เห็นชอบร่วมกันในการประชุมสุดยอดเดือนที่แล้ว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% แตะ 253.65 จุด ณ เวลา 14.48 น.ในลอนดอน โดยดัชนีหลักของตลาดหุ้นประเทศต่างๆในยุโรปปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนลบเกือบทั้งหมด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ร่วง 0.6%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ลบ 0.3% และดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส ปรับตัวลง 0.3%
ณ เวลา 15.36 น.ในกรุงมาดริด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสเปน สูงขึ้น 0.05% แตะ 7.004% ซึ่งเหนือกว่าระดับ 7% ที่เคยบีบให้รัฐบาลกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกสต้องตัดสินใจขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศมาแล้ว
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับผลกระทบจากรายงานยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนญี่ปุ่นที่ร่วงลง 14.8% เดือนพ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 6.719 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 7 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของการลงทุนในสินค้าด้านทุน อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนและการแข็งค่าของสกุลเงินเยน
หุ้นเมโทร เอจี ผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่สุดของเยอรมนี ร่วงหนักสุด หลังซีอีโอระบุว่า การยับยั้งการใช้จ่ายจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจ
หุ้นธนาคารสเปนร่วง นำโดย บังเกีย ธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศที่ร่วงลง 3.1% ขณะที่หุ้นบังโค ซานตานเดร์ และบังโค บิลเบา วิซคายา อาร์เจนตาเรีย ร่วง 1.8% และ 1.2% ตามลำดับ