นายชำนาญ งามพจนวงศ์ กรรมการ บมจ.ชูไก(CRANE) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" แนวโน้มผลประกอบการในปี 55 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะทะลุ 100 ล้านบาท หรือเติบโต 15-20% จากปี 54 ที่มีกำไร 98 ล้านบาท ส่วนรายได้น่าจะแตะหลัก 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 960 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัทมียอดขายรถเครนยี่ห้อ Zoom Lion จากประเทศจีนเข้ามาช่วยหนุน โดยบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะมียอดขายเพิ่มเป็นกว่า 500 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ราว 400 ล้านบาท
และปีนี้บริษัทยังได้มีการนำเข้ารถขุด Zoom Lion เข้ามาทดลองทำตลาดเป็นปีแรกด้วย ซึ่งในอนาคตบริษัทมีแผนจะขอใบอนุญาตเป็นตัวแทนจำหน่ายรถเครน Zoom Lion ในแถบประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งน่าจะมึความชัดเจนหลังเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 58
ทั้งนี้ จากการที่ยอดขายรถเครน Zoom Lion เพิ่มขึ้นมากจึงทำให้สัดส่วนรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากปีก่อนที่ 50% ขณะที่รายได้จากการขายลดลงเหลือ 40% ที่เหลือเป็นรายได้จากการให้เช่า
"ครึ่งปีแรกก็ยังไปได้ดีหล้งดีมานด์ยังมีอยู่มาก แต่ไตรมาส 2/55 คงลดลงจากไตรมาส 1/55 ซึ่งก็เป็นปกติเพราะมีวันหยุดเยอะ ส่วนครึ่งปีหลังก็คงใกล้เคียงครึ่งปีแรก ปกติเราก็จะมีรายได้จากการเช่าและขายอยู่ที่เดือนละ 80-100 ล้านบาทต่อเดือน"นายชำนาญ กล่าว
บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 300-400 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อรถมาปล่อยเช่าเพิ่มขึ้น ซึ่งได้ทยอยใช้ไปแล้ว 150-200 ล้านบาท ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทกว่า 90% มาจากในประเทศ ส่วนอีก 5-6% เป็นการให้เช่าเครื่องจักรหรือจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าที่ออกไปรับงานในต่างประเทศ แถบประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า, ลาว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศเป็นหลักเนื่องจากความต้องการยังมีอยู่มาก
"รายได้จากต่างประเทศหลักๆก็จะมาจากการที่ลูกค้าเราอย่างเช่น ITD เช่าเครื่องจักรไปทำงานก็มีทั้งที่ลาวและพม่า ส่วนถ้าเป็นการขายรถก็จะเป็นพวกรถมือสอง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางระบายสินค้าของเรา...เราก็ศึกษาเรื่อง AEC อยู่ แต่กว่าจะเห็นความต้องการใช้ก็คงอีกนานก็อยากให้รอบริษัทใหญ่ๆอย่าง PTT, SCC, ITD เข้าไปทำงานก่อน เราจึงตามเข้าไปแต่จะเป็นลักษณะไหนยังตอบไม่ได้ ตอนนี้ก็ขอโฟกัสที่ไทยก่อน"นายชำนาญ กล่าว