DCC อ่อนลง 1.40% หลังกำไรสุทธิ Q2/55 ต่ำกว่าคาด แต่"ถือ"รับปันผลได้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 25, 2012 10:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น DCC ราคาอ่อนตัวลง 1.40% มาอยู่ที่ 53 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.55 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.08 น. โดยเปิดตลาดที่ 53 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 53.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 53 บาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์แนะ"ถือ"หุ้น บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค(DCC) เพื่อรับปันผล เนื่องจาก DCC รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q55 เท่ากับ 322 ล้านบาท ลดลง 4.5% YoY และ 14.6% QoQ ต่ำกว่า Consensus 3% ยอดขายใน 2Q55 เติบโตเพียง 1.4% YoY

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นทำได้เพียง 39.2% ลดลงจาก 1Q55 และ 2Q54 แม้จะประเมินว่าแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นของ DCC จะปรับขึ้นเป็นประมาณ 40-41% ใน 2H55 เพราะต้นทุนพลังงานที่มีแนวโน้มลดลง แต่ด้วยอัตราการเติบโตของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ที่มีแนวโน้มทำได้ต่ำกว่าประมาณการเดิม จึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 ลง 6.5% เป็น 1.3 พันล้านบาท และปรับลดราคาเหมาะสมลงเป็น 48 บาท (จาก 51 บาท)

ดผลการดำเนินงานที่อ่อนแอจะเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นให้ Underperfrom ตลาด รวมทั้งมีโอกาสที่ Consensus จะปรับประมาณการ DCC ลง เนื่องจากกำไรสุทธิงวด 6M55 ทำได้เพียง 50% ของประมาณการใน Consensus ทั้งปีที่ 1.4 พันล้านบาท ขณะที่โดยปกติกำไรสุทธิ 2H55 โดยเฉลี่ย 5 ปีหลังสุดคิดเป็นเพียงประมาณ 44% ของกำไรสุทธิทั้งปี จากปัจจัยฤดูกาล แต่ด้วยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 5.9% และจ่ายสม่ำเสมอทุกไตรมาส

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า DCC กำไรน่าผิดหวังเป็นไตรมาสที่ 2 โดย -14% Q-Q, -4% Y-Y ต่ำกว่าเราและตลาดคาด จากยอดขายที่น่าผิดหวังเพราะการแข่งขันที่รุนแรง และทั้งที่บริษัทได้ประโยชน์จากภาษีที่ลดลงแต่กำไรก็ยังลด Y-Y จึงปรับเป้าหมายลงเป็น 55 บาท แนะนำ"ซื้อ"เฉพาะผู้ที่ชอบ high yield คาดบริษัทจ่าย 6% ต่อปี

ส่วนบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)แนะ"ถือ"หุ้น DCC กำไรสุทธิ 2Q55 อ่อนลงตามคาด แต่แนวโน้ม 2H55 คาดว่ายังไปได้ดี โดยคาดว่าผลประกอบการจะได้รับอานิสงค์จากการปรับเพิ่มราคาขาย, ลดต้นทุนการผลิตด้วยการ Modified เตาเผา และปรับ Product Mixed ต่อ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนยอดขายกระเบื้องที่มีมาร์จิ้นสูง คือ กระเบื้องปูพื้นขนาด 16x16 นิ้ว และกระเบื้องบุผนังขนาด 8x10 นิ้ว แต่ส่วนหนึ่งจะถูกชดเชยไปด้วยต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรสุทธิในครึ่งหลังของปีนี้จะใกล้เคียงกับครึ่งแรกที่ 694 ล้านบาท

นอกจากนี้ คาดว่ากำไรสุทธิปี 55 จะขยายตัว 13%YoY หลัก ๆ มาจากอัตราภาษีรายได้ฯที่ลดลง โดยไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่กำไรสุทธิเติบโตสูงเมื่อเทียบ YoY เพราะฐานของปีก่อนต่ำเนื่องจากเป็นช่วงน้ำท่วมรุนแรง ส่วนในปี 56 คาดว่ากำไรสุทธิจะขยายตัวดีขึ้นเป็น 17% โดยมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นหลังจากที่มีการปรับ Product mixed และการลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการปรับปรุงระบบ logistics และอัตราภาษีรายได้ฯ ที่ลดลงจาก 23% เป็น 20% ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 60 บาท อิงกับ P/E ปี 55 ที่ 17.5 เท่า คาดการณ์ Dividend yield ปี 55-56 เท่ากับ 6.4% และ 7.5% ตามลำดับ (จ่ายทุกไตรมาส)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ