นายสถาปนะ เลี้ยวประไพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมบริษัทจัดการลงทุน(บลจ.) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งแรกปี 55 สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ของ บลจ.มีมูลค่ารวม 2.34 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.30% จากสิ้นปี 54 ที่อยู่ในระดับ 2.08 ล้านล้านบาท และคาดว่าทั้งปี 55 AUM น่าจะเติบโต 20% หรือมีมูลค่ารวมกว่า 2.44 ล้านล้านบาท เนื่องจากมองแนวโน้มครึ่งปีหลังการลงทุนในกองทุนรวมไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงจากครึ่งปีแรก ซึ่งยังมีปัจจัยภายนอกเรื่องวิกฤติยุโรปที่น่าจะทำให้มีเงินลงทุนไหลเข้าเอเชียรวมทั้งไทยด้วย
สมาคม บลจ.คาดว่าครึ่งหลังการลงทุนในหุ้นน่าจะให้ผลตอบแทนในระดับสูงต่อไป จากครึ่งแรกที่กองทุนหุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดที่ 16.9% ขณะที่ต่ำสุดที่ 1.99% อย่างไรก็ตาม แม้การลงทุนในหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีแต่ยังมีความผันผวนสูงเช่นกัน เพราะสถานการณ์จากปัจจจัยภายนอกทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่ากองทุนรวมต่างๆ ยังเน้นลงทุนหุ้นในกลุ่มแบงก์ เพราะฐานะเงินกองทุนที่อยู่ระดับแข็งแกร่ง, กลุ่ม consumer ยังเติบโตได้ดีและรวดเร็วหลังเกิดน้ำท่วม และกลุ่มอาหารที่มีการขยายการลงทุนไปทั่วโลก
ส่วนการลงทุนในทองคำครึ่งปีหลังไม่น่าจะหวือหวา ราคาทองอาจปรับขึ้นไปได้ไม่มาก เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าทำให้ราคาทองคำปรับลดลงเป็นผลจากเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มทรงตัวทำให้ดอลลาร์กลับมาดีขึ้น ราคาทองคำจึงปรับลงสวนทางดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบางอาจจะทำให้ราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นได้บ้างแต่ไม่มากและไม่หวือหวา
อนึ่ง ครึ่งปีแรกกองทุนรวมเสนอขายกองทุนใหม่ 413 กอง มูลค่ารวม 7.34 แสนล้านบาท กองทุนรวมตราสารหนี้นิยมมากสุดเปิดกองใหม่ 340 กอง มูลค่ารวม 6.78 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีกองทุนอสังหาฯที่เสนอขาย 3 กอง มูลค่ารวม 2.4 หมื่นล้านบาท ส่วนกองทุนหุ้นมีการเปิดใหม่ 30 กอง มูลค่ารวม 1.1 หมื่นล้านบาท และกองทุนทองคำ 6 กอง 2.24 พันล้านบาท ให้ผลตอบแทนติดลบ 1.12% กองทุนน้ำมัน 1 กอง มูลค่า 31 ล้านบาท
สำหรับการจ่ายเงินปันผลของกองทุน แบ่งเป็นกองทุนผสม 6.2% กองทุนหุ้น 6.1% กองทุนรวม LTF 2.6% ETF 2.5% และกองอสังหาฯ 1.5%