BLAND หวังกลับมาผงาดหลังปลดหนี้-ฐานะการเงินแกร่งปันผลครั้งแรกรอบ 15 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 30, 2012 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บางกอกแลนด์ (BLAND) ประกาศบริษัทสามารถชำระหนี้คืนให้แก่เจ้าหนี้ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในประเทศเสร็จสมบูรณ์ และทำให้งบแสดงฐานะการเงินและกระแสเงินสดของบริษัทมั่นคงขึ้น นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติให้จ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2539 โดยจ่ายเงินปันผล 0.02 บาทต่อหุ้นสำหรับผลประกอบการงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2555

"เป็นเวลากว่า 15 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 แน่นอนว่าเป็นช่วงที่สะท้อนให้เห็นว่าเป็นช่วงที่ยากลำบากและท้าทายช่วงหนึ่ง แต่บริษัทก็สามารถลดหนี้สินได้สำเร็จและสามารถจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นโดยปันผลเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่า จาก 6 พันล้านบาท เป็น 27 พันล้านบาท และหนี้สินรวมลดลงจาก 53 พันล้านบาท เหลือเพียง 7 พันล้านบาท รวมถึงตราสารหนี้ที่ไม่มีหลักประกันจำนวน 3,992 ล้านบาท ผิดนัดชำระมาแล้วประมาณ 13 ปี ตั้งแต่ปี 2542" นายอนันต์ กล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้

ฐานะทางการเงินของกลุ่มบริษัทมั่นคงและมีการพัฒนามากขึ้นเมี่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผลสำเร็จดังนี้ หนี้สินรวมลดลงร้อยละ 9.1 เป็น 7,030 ล้านบาท จากปี 2554 ที่มี 7,734 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนดีขึ้นร้อยละ 23 เป็น 0.20 เท่า จากปี 2554 มีอัตรา 0.26 เท่า ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เป็น 26,793 ล้านบาท จากปี 2554 ที่มี 26,172 ล้านบาท

มูลค่าสินทรัพย์สุทธิหลังปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 หรือ 26,987 ล้านบาท จากปี 2554 ที่มีมูลค่า 26,366 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับมูลค่าต่อหุ้นเป็น 1.52 บาท เพิ่มจากปี 2554 ที่มีมูลค่าต่อหุ้น 1.48 บาท นอกจากนี้ การใช้เงินสดในการดำเนินธุรกิจปกติทีมีอยู่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2542 ก็ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.7 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555

นายอนันต์ กล่าวว่า ระหว่างช่วงเวลาที่ตึงเครียดของการลดภาระหนี้สิน ความไม่มั่นใจจากปัญหาทุกด้าน รวมทั้งนักลงทุนและบุคคลรอบด้าน ไม่เชื่อว่าบางกอกแลนด์จะดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น แต่วันนี้เราได้พิสูจน์ให้ท่านได้เห็นว่าเราสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ในที่สุด และในเวลาเดียวกันบริษัทก็ได้คว้าทุกโอกาสที่เข้ามา จนประสบความสำเร็จในธุรกิจศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

เมื่อเร็วๆ นี้ มีการเปิดตัวของ อิมแพ็ค โนโวเทล ในพื้นที่ของอิมแพ็ค ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งแรกของบริษัทด้านกิจการโรงแรม ทำให้ขณะนี้ติดอันดับศูนย์แสดงสินค้าที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายอนันต์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยว่า ยังไม่สดใส และอาจตกต่ำลงเนื่องจากวิกฤตหนี้ในยุโรปที่ยังคงถลำลึกลง และจะถ่วงให้ส่วนอื่นของโลกจมทลงไปด้วย เศรษฐกิจโลกรวมถึงประเทศไทยในขณะนี้อ่อนแอกว่าเมื่อครั้งที่เริ่มวิกฤตในปี 2552

"บริษัทจะยังคงสานต่องานในการยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในศูนย์แสดงและประชุมอิมแพ็คและศูนย์การประชุมของเราอย่างต่อเนื่อง และหากสภาวะตลาดเหมาะสม เราจะเพิ่มโรงแรมจากที่มีอยู่อีกหนึ่งแห่งโดยสร้างเป็นโรงแรมแบบประหยัดในพื้นที่ของอิมแพ็ค และเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นในเมืองทองธานี" นายอนันต์ กล่าว

ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในเมืองทองธานีเพียงแห่งเดียว ซึ่งถือเป็นโครงการแรกในช่วง 20 ปี โดยเป็นคอนโดมิเนียมแนวโลว์ไรส์จำนวน 150 ยูนิต มีมูลค่า 350 ล้านบาท และโครงการดังกล่าวได้รับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น เพราะสามารถป้องกันน้ำท่วมในช่วงภัยพิบัติปีที่ผ่านมา ส่วนอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่ได้พัฒนาไปแล้ว อาทิ ร้านค้าที่ทันสมัย 2 โครงการ มูลค่า 650 ล้านบาท ที่ขณะนี้ได้ขายหมดแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ