(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐานตามตลาดภูมิภาคหลังผิดหวังผลประชุม FOMC-ECB

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 3, 2012 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐานในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า

เนื่องจากเกิดความผิดหวังกับผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC)และการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป(ECB ซึ่งไม่ได้มีมาตรการอะไรออกมาอย่างที่คาดหวังไว้ แม้แต่ทางยุโรปก็ไม่ได้มีการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดคาดหวังไว้ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,1180 จุด แนวต้าน 1,200 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(2 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,878.88 จุด ลดลง 92.18 จุด(-0.71%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,365.00 จุด ลดลง 10.14 จุด(-0.74%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,909.77 จุด ลดลง 10.44 จุด (-0.36%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดวันนี้ นิกเกอิญี่ปุ่น ลดลง 113.47 จุด ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 136.41 จุด เวทเต็ดไต้หวัน ลดลง 47.45 จุด คอมโพสิตเกาหลีใต้ ลดลง 22.82 จุด FBMKLCI มาเลเซีย ลดลง 3.78 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย ลดลง 13.50 จุด และ FTSE STI สิงคโปร์ ลดลง 10.64 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(1 ส.ค.) ที่ระดับ 1,201.13 จุด เพิ่มขึ้น 1.83 จุด(+0.15%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 333.73 ล้านบาทเมื่อ 1 ส.ค.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 87.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.78 ดอลลาร์หรือ 2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(2 ส.ค.)ปิดทำการที่ 10.3 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 31.60/62 อ่อนค่าตามภูมิภาค ผิดหวังเฟด-ECB
  • นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สายงานโลจิสติกส์ กล่าวว่าขณะนี้ภาคเอกชนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาขาดสภาพคล่องของธุรกิจส่งออก โดยเฉพาะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น แต่ไม่สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าได้ อีกทั้งยังมียอดส่งออกลดลง
  • รมช.คลัง เผยนายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังอยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียดเพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าจะเสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาให้ได้ทันภายในสมัยประชุมนี้ เพราะถือว่าเป็นโครงการเร่งด่วน หากไม่ดำเนินการประเทศจะเสียหายทางเศรษฐกิจเพราะโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอรองรับการเติบโต
  • ธปท.เผยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะกลาง-ยาว เดือน ก.ค.เริ่มลดลง เหตุนักลงทุนต่างชาติแห่ซื้อ หลัง"อีซีบี"หั่นดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลพันธบัตรระยะสั้นของประเทศหลักในยุโรปติดลบ นักลงทุนหันพึ่งพันธบัตรเอเชียแทน ด้านสมาคมตราสารหนี้เผย อัตราผลตอบแทนบอนด์ไทย ก.ค.ลดลงแล้ว 0.2% ชี้ผลจากทุนไหลเข้า ขณะที่ต่างชาติถือพันธบัตรไทยสัดส่วนพุ่งแตะ 12% เหตุผลตอบแทนจูงใจ เผยส่วนใหญ่ลงยาว 10-20 ปี
  • แบงก์ชาติเผยแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศล็อตแรกจะเพิ่มวงเงินในส่วนของซื้ออสังหาฯ ในต่างประเทศ เงินให้กู้ยืมกิจการในต่างประเทศซื้อกิจการในต่างประเทศ "ประสาร" ชี้การเข้าสู่เออีซี และราคาสินทรัพย์ทั่วโลกลด จะเป็นแรงดันให้นักลงทุนไทยย้ายฐานและซื้อกิจการในต่างประเทศมากขึ้น คาดทั้งปี 55 คนไทยขนเงินลงทุนนอกโดยตรงกว่า 3.7 แสนล้านบาท
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดเงินเฟ้อครึ่งปีหลังต่ำกว่าร้อยละ 3.5 แม้สิ้นเดือนกรกฎาคมปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.73 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่เชื่อช่วงที่เหลือของปีไม่น่ากังวล แนะจับตาราคาน้ำมัน-สินค้าโภคภัณฑ์ตลาดโลกขึ้นราคา แต่เชื่อนโยบายรัฐบรรเทาค่าครองชีพยังช่วยกดดันอยู่
  • ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์เผยปีหน้าจะเห็นภาคเอกชนของไทยเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศมากขึ้น โดยใช้ช่วงจังหวะนี้รอดูสถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรป(อียู)เพื่อรอถึงจุดต่ำสุดจะทำให้ซื้อกิจการได้ในราคาถูก ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพ
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ธปท.จะออกมาตรการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การเปิดเสรีการเคลื่อนย้ายเงินทุนเพื่อให้นักลงทุนไทยนำเงินออกไปธุรกรรมการเงินในต่างประเทศ โดยจะทยอยทำตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้ และ ธปท.เห็นว่าในช่วงครึ่งปีหลังเงินลงทุนจากต่างชาติจะไหลเข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่อง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KTB(เกียรตินาคิน)แนะ"ซื้อ"เป้า 22.40 บาท ปรับเป้าสินเชื่อปีนี้ขึ้นเป็น 8-10% จากเดิม 7% หลังครึ่งปีแรกปล่อยเพิ่มขึ้นแล้ว 5.4% และมีข้อได้เปรียบจากใกล้ชิดรัฐบาลจะทำให้มีสินเชื่อเกี่ยวเนื่องหน่วยงานรัฐเพิ่มขึ้น-คาดปีนี้จ่ายปันผล 0.95 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 5.6% สูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่
  • PTT(ฟินันเซีย ไซรัส)แนะ"ซื้อ"เป้า 400 บาท ราคาหุ้นสะท้อน 2Q12 แล้วคาดกำไรสุทธิเหลือ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท -67% Q-Q, -62% Y-Y จากกำไรของบ.ลูกต่ำกว่าคาดแล้ว บริษัทยัง write off โครงการในอียิปต์กว่า 4 พันล้านบาท และคาดธุรกิจ NGV ขาดทุนมากขึ้นเป็น 4.4 พันล้านบาท
  • AH(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 20.20 บาท คาดกำไรงวด Q2/55 เพิ่มขึ้น 133% YoY และ 23% QoQ เป็น 117 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัทเริ่มกลับมาเดินเครื่องโรงงานในนิคมไฮเทค จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น 34% และปรับเพิ่มราคาเหมาะสมขึ้น 19% เป็น 20.20 บาท และเลือกเป็นหุ้น Top Pick ของกลุ่ม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ