"สยาม อมาโก้ โฮลดิ้งส์"จะขาย IPO 65 ล้านหุ้น ใช้พัฒนาโครงการอสังหาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 3, 2012 10:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.สยาม อมาโก้ โฮลดิ้งส์ ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2555 เนื่องจากบริษัทฯมีความประสงค์จะเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่ประชาชนทั่วไป(IPO)จำนวน 65 ล้านหุ้น เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทและบริษัทย่อย ทั้งโครงการที่เปิดดำเนินการอยู่และโครงการในอนาคต ทั้งนี้บริษัทมีความประสงค์นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI) โดยมี บล.โกลเบล็ก เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบที่หลากหลายเพิ่มขึ้น นอกจากประเภทคอนโดมิเนียม เพื่อสร้างรายได้ที่คงที่ในอนาคต โดยขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นไปในธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น อพาร์ทเมนท์ให้เช่า และในอนาคตบริษัทมีโครงการจะก่อสร้างอาคารสำนักงานให้เช่า เพื่อให้ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในกรุงเทพและปริมณฑล

บริษัทฯมีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท การ์เดนท์ ออฟฟิศ โฮลดิ้งส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน บริษัทถือหุ้น 99.99% และบริษัท แฟมมิลี่ เฮ้าส์ เดเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินธุรกิจใด ๆ แต่บริษัทมีแผนจะทำธุรกิจรับบริหารอาคารชุดให้แก่นิติบุคคลอาคารชุดและเจ้าของอาคารประเภทต่าง ๆ ในอนาคต บริษัทถือหุ้น 99.99% โครงการในอนาคต คือโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อขาย 1 โครงการ คือ โครงการคอนโดมิเนียม เอวาดา การเดนท์-แฟมมิลี่เฮ้าส์ มีจำนวน 45 ห้อง บริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินและวางเงินมัดจำให้แก่ผู้ขายแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรอการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากผู้ขาย

งบการเงินรวมงวดไตรมาส 1/55 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 251.39 ล้านบาท หนี้สินรวม 80.76 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 170.63 ล้านบาท และบริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริษัท 27.16 ล้านบาท ต้นทุนขายและบริการ 17.07 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ 4.88 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4.62 ล้านบาท

ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 230 ล้านบาท เรียกชำระแล้ว 165 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หลังเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้แล้วจะทำให้บริษัทมีทุนชำระแล้ว 230 ล้านบาท

กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 1 เมษายน 2555 คือ ครอบครัวสีลานาแก ถือหุ้น 38.56% หลังขาย IPO ครั้งนี้แล้วจะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 27.67%, กลุ่มนางสาวหว่อง วิงส์ เย่น ถือหุ้น 19.94% หลังขาย IPO ครั้งนี้แล้วจะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 14.30% และกลุ่ม บล.คันทรี่ กรุ๊ป ถือหุ้น 18.18% หลังขาย IPO ครั้งนี้แล้วจะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 13.04%

ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินเฉพาะ และหลังหักสำรองตามกฎหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ