หุ้น KTB ราคาขยับขึ้น 0.59% มาอยู่ที่ 17.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 364.69 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น.โดยเปิดตลาดที่ 16.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 17.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 16.80 บาท
ขณะที่ดัชนี SET ร่วง 6.94 จุด(-0.58%) มาอยู่ที่ 1,194.19 จุด เมื่อเวลา 10.26 น.
บล.เกียรตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นธนาคารกรุงไทย(KTB)ราคาเหมาะสม 22.40 บาท คาดไตรมาส 3/55 ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องตามสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น และ KTB จะได้รับรายได้พิเศษจากเงินปันผลของกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งน่าจะทำให้ผลประกอบการของ KTB เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/55 ที่มีผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้
ทั้งนี้ KTB ปรับเป้าสินเชื่อปี 2555 ขึ้นเป็น 8-10% จากเป้าเดิมตั้งไว้ที่ 7% หลังจากครึ่งปีแรก KTB สามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2554 ได้แล้ว 5.4%
สินเชื่อที่เติบโตขึ้นในครึ่งปีแรกเนื่องจากมีการปรับพอร์ตสินเชื่อ จากการลดสินเชื่อภาครัฐที่จากเดิมมีอยู่ 17 - 18% ลดลงเหลือ 15% ในขณะที่ไปเพิ่มสินเชื่อประเภทอื่น โดยสินเชื่อรายย่อยเพิ่มเป็น 27% จากเดิมที่มีอยู่ 26% สินเชื่อรายใหญ่เพิ่มเป็น 38% จากเดิม 36% ส่วนสินเชื่อ SME คงที่ที่ 20%
การปรับพอร์ตสินเชื่อส่งผลดีต่อผลตอบแทนสินเชื่อ เนื่องจากสินเชื่อที่ไม่ใช่สินเชื่อภาครัฐมีผลตอบแทนสินเชื่อสูงกว่า ทำให้ผลตอบแทนสินเชื่อของ KTB ในไตรมาส 2/55 เพิ่มขึ้นเป็น 5.28% จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 5.11% แต่ต้นทุนเงินฝากที่เพิ่มขึ้นทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ KTB ยังทรงตัวอยู่ที่ 2.98%
พร้อมยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 ของ KTB ไว้เหมือนเดิมที่ 26,086 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.33 บาท โดยมองว่า KTB มีข้อได้เปรียบจากความใกล้ชิดกับรัฐบาลจะทำให้มีสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะทำให้สินเชื่อของ KTB เติบโตต่อเนื่องได้ นอกจากนี้ KTB ยังเป็นธนาคารที่มีระดับเงินปันผลสูง โดยเราคาดว่าปี 2555 KTB จะมีการจ่ายปันผล 0.95 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 5.6% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ แต่จะไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล