ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,197.53 จุด ลดลง 3.60 จุด(-0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 25,618.50 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,199.51 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,186.38 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 251 หลักทรัพย์ ลดลง 269 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 163 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้ามีการอ่อนตัวลงตามตลาดภูมิภาค ภายหลังจากผิดหวังที่ ECB ไม่ได้มีมาตรการใหม่ออกมา แต่พอมาช่วงบ่ายตลาดฯกลับมีการรีบาวน์ขึ้นแม้ว่าจะยังอยู่ในแดนลบก็ตาม แต่ก็ลบเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามตลาดยุโรปที่บ่ายนี้มีการรีบาวน์ขึ้น ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็มีการแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้รับแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดเล็ก จากความคาดหวังว่าหลาย ๆ Sector จะมีการประกาศผลประกอบการออกมาดี และหวังปันผลระหว่างกาลด้วย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มสื่อสารที่ขึ้นนำตลาด รับแรงซื้อกลับหลังก่อนหน้านี้มีแรงขายค่อนข้างมาก อย่างหุ้น ADVANC มีแรงซื้อกลับเพราะคาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55 จะออกมาดี นอกเหนือจากนั้นก็จะเทรดหุ้นเป็นลักษณะกระจายเล่นเป็นรายตัวไป
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.อาภากรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบหากไม่มีปัจจัยลบเข้ามา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับข่าวเป็นหลัก ซึ่งสัปดาห์หน้าตลาดฯคงจะโฟกัสไปที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และปันผลระหว่างกาลเป็นหลัก เพราะสัปดาห์หน้าจะมีการประกาศหลายบริษัทฯเนื่องจากใกล้ dateline แล้ว ส่วนปัจจัยจากยุโรปก็ต้องรอดูว่าจะมีอะไรออกมาหรือเปล่า พร้อมให้แนวรับ 1,190 จุด แนวต้าน 1,200-1,210 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,718.37 ล้านบาท ปิดที่ 17.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,509.68 ล้านบาท ปิดที่ 194.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,408.36 ล้านบาท ปิดที่ 320.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,122.02 ล้านบาท ปิดที่ 400.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,049.69 ล้านบาท ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 2.50 บาท