ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับตัวลงไม่มากนักเนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มการเงิน
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 31.74 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 5,833.04 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,822.25-5,864.78 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากเจ้าหน้าที่ของจีนกล่าวว่าเศรษฐกิจภายในประเทศกำลังชะลอตัวลง โดยหุ้นริโอทินโต้ ร่วงลง 3.4% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 2.3% หุ้นยูเรเซียน เนเชอรัล รีซอสเซส ร่วงลง 8.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายครึ่งปีแรกที่ระดับ 3.25 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์
หุ้นโวดาโฟนร่วงลง 1% หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ "neutral" จากระดับ "buy"
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหุ้นกลุ่มการเงิน นำโดยหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ทะยานขึ้น 4.1% หลังจากมีรายงานว่าสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ยอมยุติคดีความตามข้อกล่าวหาที่ว่าทางธนาคารปกปิดการทำธุรกรรมกับอิหร่าน ด้วยการตกลงจ่ายเงิน 340 ล้านดอลลาร์ให้แก่สำนักงานบริการการเงิน (DFS) ของรัฐนิวยอร์ก เพื่อยุติข้อกล่าวหาดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เผยจำนวนผู้ว่างงานตามเกณฑ์ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) มีจำนวน 2.56 ล้านรายในช่วงไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. จาก 2.61 ล้านรายในเดือนม.ค.-มี.ค. ขณะที่อัตราว่างงานลดลงแตะ 8.0% ในเดือนเม.ย.-มิ.ย. จาก 8.2% ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษลดลง 5,900 ราย หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1,000 รายในเดือนมิ.ย. โดยมีจำนวนผู้ว่างงาน 1.593 ล้านคน จาก 1.599 ล้านคนในเดือนมิ.ย.