อมตะ บี. กริม ตั้ง KBANK เป็น FA หาทุน 5 หมื่นลบ.สร้างโรงไฟฟ้า 10 แห่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 16, 2012 11:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เปิดเผยว่า บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของไทย ได้แต่งตั้งธนาคารกสิกรไทย ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ในการดำเนินการจัดหาและเจรจาจัดสรรแหล่งเงินกู้มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมขนาดเล็ก (SPP) ของกลุ่มบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนสร้างโรงไฟฟ้า 10 แห่งภายใน 7 ปี ใน 5 นิคมอุตสาหกรรม เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)แห่งละ 90 เมกะวัตต์ รวมเป็น 900 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 1,200 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ระยะยาว 25 ปี ส่วนพลังงานไฟฟ้าส่วนที่เหลือและไอน้ำจะจำหน่ายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมภายในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่โครงการตั้งอยู่

การจัดหาแหล่งเงินของบริษัทเอกชนที่มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท นับเป็นการจัดหาที่มีมูลค่ามากที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศไทย ดังนั้นโครงสร้างแผนการเงินคงจะมีรูปแบบที่หลากหลายอาทิ เงินกู้ร่วมทั้งจากธนาคารไทยและต่างประเทศ การออกตราสารทางการเงินในรูปแบบต่าง ๆ อย่างไรก็ตามแหล่งเงินที่นำมาลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ จะทยอยดำเนินการในช่วงเวลา 6-7 ปี ดังนั้นจึงจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธนาคารกสิกรไทย และระบบการเงินในประเทศ

โครงการโรงไฟฟ้าของ อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าเพื่อป้อนนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญของไทยจะมีส่วนสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมว่าจะมีความต่อเนื่องของกระบวนการผลิต โดยไม่มีปัญหาเรื่องพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งความมีเสถียรภาพด้านพลังงานของประเทศจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนต่างประเทศใช้ในการพิจารณาเพื่อเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งแผนการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั้ง 10 โรงจะสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาวให้แก่ประเทศไทยมากขึ้น ทั้งในภาคครัวเรือน ธุรกิจ อุตสาหกรรม และการพัฒนาประเทศ

ด้านนางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2555 ปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้พุ่งสูงสุดถึง 26,121 เมกะวัตต์ และคาดว่าในปี 2556 ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 27,443 เมกะวัตต์ ดังนั้นเพื่อรองรับการความการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น และสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับประเทศในระยะยาว ทางบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จึงมีแผนจะลงทุนอีกประมาณ 50,000 ล้านบาท สร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 10 โรง

บริษัทเลือกให้ธนาคารกสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการจัดหาเงินทุนในการดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าในครั้งนี้ เนื่องจากเล็งเห็นว่า เป็นธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญในการในการแสวงหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายตรงความต้องการ และที่สำคัญคือ เป็นสถาบันการเงินที่มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจพลังงานมากที่สุดธนาคารหนึ่งในประเทศไทย

สำหรับโครงการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ของบริษัท ฯ ทั้ง 10 โรง จะตั้งอยู่ภายใน 5 นิคมอุตสาหกรรมได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี จังหวัดปทุมธานี 2 โรง นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครและนิคมอุตสาหกรรมเหมราช จังหวัดชลบุรี 3 โรง นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง 3 โรง และนิคมอุตสาหกรรมวีอาร์เอ็ม (VRM) จังหวัดราชบุรี 2 โรง กำลังการผลิตไฟฟ้าโรงละ 116-142 เมกะวัตต์ คาดจะสร้างเสร็จทั้งหมดภายในปี 2562

ปัจจุบันบริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด มีโรงผลิตไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว 3 โรง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี 2 โรง และในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ เบียนโฮ ประเทศเวียดนาม 1 โรง มีกำลังการผลิตรวม 363 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) อีก 3 โรง ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี ขนาด 130 เมกะวัตต์ จำนวน 1 โรง พร้อมจะจ่ายไฟฟ้าในเดือนกันยายน 2555 และ ขนาด 120 เมกะวัตต์ อีก 2 โรงตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จภายในปี 2556

โรงไฟฟ้าทั้งหมดจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกันประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมากกว่า 800 ราย นอกเหนือจากที่ส่งให้กับกฟผ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ