นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวใน กรอบแคบ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ไม่ได้แกว่งตัวกว้างนัก ประกอบกับราคาน้ำมัน และราคาสินค้า โภคภัณฑ์(Commodity)เริ่มชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยตลาดฯมีโอกาสจะถูกขายทำกำไรมากกว่า
"ตลาดหุ้นเราแพงอยู่แล้ว ฉะนั้นการที่ขึ้นมาแล้ว ไม่มีปัจจัยที่เป็นบวกเข้ามา support พอ โอกาสที่จะถูกขายทำกำไรมี มาก พร้อมให้แนวต้านที่ 1,228 จุด และถ้าขึ้นมาให้ take profit" นายเทิดศักดิ์ กล่าว
พร้อมให้แนวรับ 1,212 จุด และแนวต้าน 1,228 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(17 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,275.20 จุด เพิ่มขึ้น 25.09 จุด(+0.19%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,418.16 จุด เพิ่มขึ้น 2.65 จุด(+0.19%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,076.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.20 จุด (+0.46%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดวันนี้ นิกเกอิญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 39.86 จุด ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 35.75 จุด เวทเต็ดไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14.13 จุด คอมโพสิต ตลาดเกาหลีใต้ ลดลง 1.87 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 2.40 จุด ส่วน FBMKLCI มาเลเซีย และ FTSE STI สิงคโปร์ ปิดทำการวันนี้
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(17 ส.ค.)ที่ระดับ 1,223.91 จุด ลดลง 0.49 จุด(-0.04%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,852.53 ล้านบาทเมื่อ 17 ส.ค.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 96.01 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.41 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ล่าสุด(17 ส.ค.)ปิดทำการที่ 10.1 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ 31.51/53 อ่อนค่าเล็กน้อย คาดวันนี้เคลื่อนไหวกรอบแคบ รอปัจจัยใหม่
- นักเศรษฐศาสตร์ประเมินผลกระทบจากวิกฤติยุโรปกระทบแรงขึ้นในอีก 6 เดือน เตือนรับมือผลกระทบ หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาแย่ลง "กสิกรทหารไทย" เล็งหั่นเป้าส่งออก ประเมินครึ่งปีหลังส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์กระทบหนัก
- พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดดำเนินการจัดทำสลากออนไลน์ เลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถเปิดจำหน่ายได้ทันภายในปีนี้ ตามนโยบายของนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัยรมช.คลัง จากเดิมที่คาดว่าต้องใช้เวลา 6-8 เดือนจึงเริ่มจำหน่ายได้
- แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปี 2555 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีแผนโรดโชว์ชักจูงนักลงทุนจากกลุ่มประเทศยุโรปกว่า 20 ครั้ง เพื่อให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น หลังผู้ประกอบการรายใหญ่ในยุโรปจำนวนมากทยอยปรับแผนย้ายฐานการผลิตหรือขยายฐานการผลิตไปภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียนเพราะตลาดในประเทศยุโรปทรุดตัวอย่างหนักจากปัญหาวิกฤตทางการเงิน จนการบริโภคชะลอตัวลง
- นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า นโยบายการปรับเพื่อดูแลราคาพลังงานในขณะนี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับราคาน้ำมันมีความผันผวนขึ้นลงไม่เป็นไปตามฤดูกาล ทั้งๆ ที่ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงที่น้ำมันขาลง ดังนั้นหน้าที่หลักของกระทรวงต้องไม่ให้ราคาขายปลีกในประเทศกระทบประชาชนเดือดร้อนมากเกินไป ซึ่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการดูแลราคา และยอมรับว่าเป้าหมายที่จะทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ กลับมาเป็นบวกคงไม่เกิดขึ้นในปีนี้
- ปปง.เข้ม สั่งสถาบันการเงิน-โบรกเกอร์-สหกรณ์ ตรวจสอบทำธุรกรรมนอมินี ป้องกันการฟอกเงิน ใครไม่สนปรับ 5 แสนบาท ดีเดย์ 21 ส.ค.นี้, พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.นี้เป็นต้นไป ปปง.จะบังคับใช้กฎกระทรวงที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าพ.ศ.2555 ของสถาบันการเงิน ตามมาตรา 16 (1) และ (9) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กับสถาบันการเงินในประเทศทุกแห่ง
*หุ้นเด่นวันนี้
- AP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 8.50 บาทเป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มอสังหาฯ คาดว่าราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกจากการร่วม Roadshow วันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะต่อการขยายตัวต่อเนื่องของ Presales ช่วงที่เหลือของปี และช่วยยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในปี 2555 ให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิ 2H55 จะเติบโตสูงกว่า 1H55 และโตต่อเนื่อง qoq ตั้งแต่ 3Q55 เป็นต้นไป และ 4Q55 จะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดของปี จากการรับรู้รายได้ 2 โครงการคอนโดขนาดใหญ่ใน 2H55 คือ The Address อโศก และ The Address สาทร
- KTB(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 26 บาท แม้ฐานเงินทุนต่ำที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ จากที่มีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งหมดต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ 12.91% (อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier I = 7.92%) แม้สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 8.5% ของธนาคารแห่งประเทศไทยแต่ต่ำที่สุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ คงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีราว 2.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 41% YoY
- TCAP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 41.00 บาท มองเชิงบวกต่อการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใน 2H55 หลังรัฐบาลขยายอายุโครงการ"รถคันแรก"คาดว่าจะส่งผลบวกโดยตรงต่อ TCAP เนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ราว 45-50% ของพอร์ตสินเชื่อรวม พร้อมคาดกำไรปี 2555 - 2556 จะเติบโตต่อเนื่อง +21% yoy และ +17% yoy เป็น 6,036 ล้านบาท และ 7,042 ล้านบาท ตามลำดับ โดยตั้งแต่ 3Q55 เป็นต้นไป TCAP จะมีการปรับนโยบายเพื่อรุกตลาดสินเชื่อ SMEs ให้มากขึ้น