(เพิ่มเติม) BJC คาดสรุปซื้อศูนย์กระจายสินค้าเวียดนาม 1-3 พันลบ.Q3 หวังขึ้นเบอร์ 1

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 27, 2012 15:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์(BJC) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการศูนย์กระจายสินค้าในประเทศเวียดนาม มูลค่า 1-3 พันล้านบาท คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในไตรมาส 3/55 และเชื่อว่ามีโอกาสที่จะได้กิจการใหม่ทั้งศูนย์กระจายสินค้าและธุรกิจค้าปลีก

หากดีลนี้มีข้อสรุปจะทำให้บริษัทกลายเป็นศูนย์กระจายสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับ 1 ในเวียดนาม โดยปัจจุบันยอดขายสินค้ารวมของบริษัทในเวียดนามอยู่ที่ 2 พันล้านบาท/ปี และจะเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาท/ปีหลังซื้อกิจการศูนย์กระจายสินค้า ขณะที่บริษัทมีกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคา(EBITDA)ในระดับสูงถึง 5 พันล้านบาท จึงเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการซื้อกิจการดังกล่าว

ส่วนการประมูลเข้าซื้อกิจการร้านสะดวกซื้อ"แฟมิลี่มาร์ท"ในประเทศไทย ยอมรับว่า โอกาสที่จะชนะประมูลมีน้อย เนื่องจากบริษัทยังเป็นน้องใหม่ในธุรกิจร้านค้าปลีกของไทย แต่ยังมุ่งหน้าที่จะหาซื้อกิจการอื่นๆ แทน เพราะการที่บริษัทจะลงทุนเปิดร้านค้าปลีกหรือร้านสะดวกซื้อเองคงเป็นเรื่องยาก เพราะมีคู่แข่งในตลาดมาก บริษัทจึงอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเปิดร้านขายยา เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ ซึ่งการแข่งขันไม่รุนแรงมากเท่ากับร้านค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค โดยส่วนหนึ่งอาจนำเครื่องสำอางมาขายในร้านรวมทั้งร่วมมือกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างประเทศมาขายด้วย ช่วงแรกอาจเปิด 5-10 สาขาก่อน

"การแข่งขันในธุรกิจร้านขายยายังมีโอกาส เพราะปัจจุบันบริษัทขายทั้งยาและเครื่องมือแพทย์ มียอดขาย 4 พันล้านบาท/ปี ยังสามารถขยายตลาดได้อีก" นายอัศวิน กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายอัศวิน ปฏิเสธกระแสข่าวการเจรจาซื้อกิจการ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ในประเทศไทย

นายอัศวิน กล่าวว่า ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจค้าปลีกในไทยแม้เป็นน้องใหม่ในอุตฯนี้ โดยมองตลาดอาเซียนทั้งไทย เวียดนาม พม่า ที่ BJCให้ความสำคัญ อย่างในเวียดนามถ้าได้ปลายน้ำมาบวกกับธุรกิจที่เรามีอยู่จะต่อยอดให้ใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น

"ตอนนี้ฐานะซัพพลายเออร์ลำบาก ต้องลงทุน channal ค่อนข้างเยอะ เอาสินค้าเข้าไปขายแล้ว ขายได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ ขายได้แล้วก็ต้องแบ่ง ซัพพลายเออร์น่าสงสารมาก จึงต้องมองแบรนด์อื่นๆ ด้วย ไม่ปิดโอกาส เพราะท้ายที่สุดแล้วต้องมีให้ได้ธุรกิจค้าปลีกในไทย"

สำหรับยอดขายรวมของบริษัทปีนี้ ยังคงเป้าหมายเติบโต 15% โดยครึ่งปีแรกมียอดขายเติบโต 19% คิดเป็น 1.8 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายแล้ว ส่วนครึ่งปีหลังคงต้องรอดูสถานการณ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ