(เพิ่มเติม) BGT ปรับลดเป้ารายได้ปี 55 ลงเหลือโตแค่ 7-12% จากเดิม 15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 29, 2012 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.บีจีที คอร์ปอเรชั่น(BGT)ปรับลดเป้าหมายรายได้ในปี 55 ลงเหลือโตแค่ 7-12% จากเดิมคาดไว้ที่ 15% เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะปรับขึ้นราคาสินค้าอีก 4-8% ในช่วงครึ่งปีหลัง และลดกิจกรรมส่งเสริมการขายลง เพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน ขณะที่บริษัทยังเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นปีนี้จะมีสาขาเพิ่มเป็น 155 สาขา จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/55 มีสาขา 143 สาขา

บริษัทยังเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยคาดว่าภายในปีนี่การส่งสินค้าไปจำหน่ายในเวียดนามจะมีความชัดเจน ส่วนในพม่านั้น บริษัทกำลังมองหาพันธมิตรท้องถิ่นเข้ามาร่วมมือเพื่อนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายเช่นกัน

นายเกา โก๊ะ เชง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGT กล่าวว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ทั้งปีลงเป็นเติบโต 7-12% ต่ำกว่าเดิม เนื่องจากในไตรมาส 1/55 และไตรมาส 2/55 ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการขายที่เพิ่มขึ้นมาราว 10.55% ทั้งจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น 21.16% โดยเฉพาะจากกรณีปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในเดือน เม.ย. และการซ่อมบำรุงอาคารสำนักงานสะพานใหม่ที่น้ำท่วมเมื่อปี 54 รวมถึงการตัดค่าเสื่อมราคาอาคารสำนักงานที่สะพานใหม่ด้วย

บริษัทยังจะมุ่งเน้นการปรับลดต้นทุนสินค้าขายและจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้น้อยลง รวมถึงจะปรับราคาขายสินค้าเพิ่มขึ้น 4-8% และควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการขายและการจัดการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทจะย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่มีนบุรี ภายในสิ้นเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งจะมีทั้ง outlet สำนักงาน และคลังเก็บสินค้า

สำหรับแผนขยายสาขาในประเทศครึ่งปีหลังจะเปิดเพิ่ม 7 shops กับ 5 counters ณ สิ้นปี 55 จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 155 สาขา จากครึ่งปีแรกมี 143 สาขา พร้อมทั้งมุ่งหาพันธมิตรร่วมทุนในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศจะเน้นรุกตลาดเวียดนาม และพม่า ซึ่งจะเป็นการนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย

ด้าน น.ส.วริษฐา ฐาปนสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสายงานบริหารการเงิน BGT เปิดเผย เรื่องการลงทุนในต่างประเทศว่าบริษัทยังคงมองหาพันธมิตรร่วมลงทุนในต่างประเทศอยู่ ปัจจุบันมีไลเซนอยู่ 5 ประเทศ ในพม่า เวียดนาม ลาว ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา โดยจะนำสินค้าไปวางขายในเวียดนามคาดว่าจะมีเห็นชัดเจนในปีนี้ และมีแผนจะนำสินค้าไปวางขายในพม่าด้วย สำหรับฟิลิปปินส์ได้พับแผนไปแล้ว เพราะติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ส่วนกัมพูชายังไม่มีแผนในขณะนี้ แต่ในอนาคตก็มองที่จะเข้าไปศึกษาเรื่องการลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ