บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LH)คาดการเข้าซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ จะชัดเจนในปลายปีนี้ ซึ่งถือเป็นการบุกตลาดต่างประเทศเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ คาดรายได้ปี 55 ทะลุเป้า 2 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน(Backlog)ราว 6.5 พันล้านบาท รับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 4-5 พันล้านบาท ขณะที่การเจรจารับบริหารโครงการสามย่านของสำนักงานจัดการทรัพย์สินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยุติลงไปแล้ว หลังการเจรจาไม่ลงตัว
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล รองกรรมการผู้จัดการ LH กล่าวว่า หลังคณะกรรมการอนุมัติให้ตั้งบริษัทในสหรัฐ มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะมองเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดสหรัฐที่มองว่าความเสี่ยงลดลงแล้วเมื่อเทียบช่วงเกิดวิกฤตปี 50 ราคาอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มปรับขึ้นบ้างแล้ว โดยภายในปีนี้น่าจะเห็นการเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในซานฟรานซิสโก เนื่องจากเป็นทำเลที่ตั้งของบริษัทไอทีขนาดใหญ่ที่ยังมองหาซื้ออาคารให้พนักงานอยู่อาศัย และถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้ขยายการลงทุนในต่างประเทศอีกครั้งหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 40
"ตอนนี้เห็นโอกาสการลงทุนอยู่แล้ว แต่ยังไม่ใหญ่มาก ต้องค่อยๆศึกษา ยังเน้นเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งที่ซานฟรานฯ จะเป็นคอนโดแนว low rise ส่วนแนวราบยังมีน้อย ปลายปีนี้น่าจะได้เห็น...เรามองเป็นโอกาสการลงทุนต่างประเทศ เพราะราคาต่ำ และความเสี่ยงลดลง ส่วนที่ยุโรปไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้ฝียังไม่แตก"นายอดิศร กล่าว
สำหรับการบริหารโครงการสามย่านของสำนักงานจัดการทรัพย์สินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือยุติลงแล้ว โดยบริษัทไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขที่ทางสำนักงานทรัพย์สินฯเสนอมาได้ และทางสำนักงานทรัพย์สินฯไม่สามารถยอมรับข้อเสนอของบริษัทได้เช่นกัน
นายอดิศร กล่าวอีกว่า ในปี 55 คาดว่ารายได้จะเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท โดย ณ ไตรมาส 2/55 มียอดขายรอโอน(backlog) ราว 6.5 พันล้านบาท รับรู้รายได้ในปีนี้ 4-5 พันล้านบาท ที่เหลือทยอยรับรู้รายได้อีก 2 ปี โดยปีนี้บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่ารวม 3.15 หมื่นล้านบาท ครึ่งปีหลังเหลือการเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ยังเป็นโครงการแนวราบ