นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายรอบใหม่ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 1(KTFIX3M1)ในวันที่ 24-28 ก.ย.55 อายุ 3 เดือน ประเภท Roll Over ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ 59% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ เช่น ธนาคารไอซีบีซี(ไทย), ธนาคารธนชาต และธนาคารทิสโก้ ผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี
นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี52(KTSUPB52)อยู่ในระหว่างการเสนอขายถึงวันที่ 26 ก.ย.55 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วยเงินฝาก Bank of China สาขามาเก๊า และเงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank ในสัดส่วน 44% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนตราสารในประเทศ ได้แก่ เงินฝาก / ตราสารการเงินระยะสั้นธนาคารพาณิชย์ไทย / ตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนไทย โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี
ทั้งนี้ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงินประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3% เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และคณะกรรมการธนาคารกลางของยุโรปและสหรัฐอเมริกา ประกาศมาตรการผ่อนคลายการเงิน ผ่านการซื้อพันธบัตร ส่งผลให้ตลาดมีการขายทำกำไร และความกังวลต่อปัญหาเงินเฟ้อในระยะยาว จึงทำให้อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ตราสารระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ทรงตัวใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ในระดับ 2.83-3.04% ต่อปี
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ ไม่มีการ เปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมีการระดมทุนในรูปเงินฝากหรือการออกตราสารระยะกลางถึงยาวเป็นส่วนใหญ่เพื่อล็อคอัตราดอกเบี้ย และเพื่อรองรับเม็ดเงินที่มาจากการไถ่ถอนพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ กองทุนทั้ง 2 ประเภทที่บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย นับว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะสั้น เพื่อพักเงินไว้ลงทุนในอนาคตและผลตอบแทนบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี