นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M39 (KFFIX6M39) อายุโครงการประมาณ 6 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 2-8 ต.ค.55 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
ทั้งนี้ นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.15% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐไทย สัดส่วนการลงทุน 11% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดย ธ.กรุงไทย จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดย ธ.กรุงศรีอยุธยา จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 9% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20 % เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% และเงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) สัดส่วนการลงทุน 20 %
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลก นักลงทุนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในยุโรปอีกครั้ง โดยกังวลต่อแผนการขอความช่วยเหลือทางการเงินและแผนงบประมาณของสเปน ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนอายุ 10 ปี ปรับขึ้นเหนือ 6% ก่อนที่จะปรับลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 6% หลังจากที่รัฐบาลประกาศงบประมาณปีหน้า ซึ่งมีการปรับลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯมีทั้งในแง่บวกและลบ โดยจีดีพีในไตรมาส 2/55 ขยายตัว 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่รายงานไปก่อนหน้านี้ว่าขยายตัว 1.7% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯลดลง 0.02 — 0.12%
ส่วนภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยนั้นเนื่องจากมีอุปสงค์ตลาดที่แข็งแกร่งและปริมาณตราสารหนี้ระยะยาวที่จะออกจำหน่ายในช่วง 2 — 3 สัปดาห์หน้านี้มีจำกัด ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลง โดยเฉพาะตราสารที่มีอายุมากกว่า 7 ปี