(เพิ่มเติม) DIMETคาดงวดปี 56(สิ้นสุด มิ.ย.56)พลิกเป็นกำไร,รายได้โต 10%เป็น 430 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 10, 2012 14:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไดเมท (สยาม)(DIMET)คาดว่า งวดปี 56(สิ้นสุด มิ.ย.56)จะพลิกมีกำไรสุทธิ โดยอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 30-35% จาก 25-30% ในงวดปี 55 ขณะที่รายได้คาดว่าจะเติบโต 10% เป็น 430 ล้านบาท จากปีก่อน และหากยอดขายแตะ 500 ล้านบาท บริษัทจะลงทุนเพิ่มเติมอีกราว 20-30 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต 20-30%

พร้อมศึกษาขยายตลาดพม่า-ลาวรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 58 หลังทำตลาดภูมิภาคแข็งแกร่ง

นายสุรพล รุจิกาญจนา กรรมการผู้จัดการ DIMET กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทงวดปี 56 (ก.ค.55-มิ.ย.56) คาดว่าจะพลิกเป็นกำไร หลังจากงวดปี 55 ขาดทุนราว 8.53 ล้านบาท เป็นผลจากบริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% มาที่ 430 ล้านบาท จากงวดปีก่อนที่มีรายได้ 390 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 30-35% จากงวดปีก่อน 25-30% เนื่องจากปีนี้ราคาน้ำม้นไม่ผันผวนเหมือนปี่อน ประกอบกับบริษัทได้ปรับขึ้นราคาขายสินค้าไปตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

"ปีนี้มั่นใจว่าจะพลิกกำไรจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น โดยตั้งงบการตลาด 10 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาดสีกันสนิม สีทาอาคาร โดยรุกงานโครงการมากขึ้น และสีทาไม้ที่ใช้ในรีสอร์ต โรงแรม"นายสุรพล กล่าว

สำหรับรายได้งวดไตรมาส 1/55-56 (ก.ค.-ก.ย.55)คาดว่าจะใกล้เคียงงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจาก 3 เดือนนี้ฝนตกค่อนข้างมาก ทำให้ตลาดสีชะลอลงกันถ้วนหน้า แต่บริษัทยังสามารถรักษาระดับยอดขายใกล้เคียงปีก่อนได้

แต่เชื่อว่าตั้งแต่งวดไตรมาส 2/55-56 เป็นต้นไปยอดขายจะดีขึ้นมากจากการที่บริษัทได้ขยายช่องการจัดจำหน่ายให้ควบคุมกลุ่มผู้ใช้ ทั้งในโมเดิร์นเทรดเช่นโฮมโปรสาขาต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมี 5 สาขา และตั้งเป้าสิ้นงวดปี 56 จะมีการวางขายผ่านสาขาโฮมโปรเพื่มเป็น 10 สาขา และโมเดิร์นเทรดอื่นๆ อีก 10 สาขา รวมสิ้นงวดปี 56 จะมีขายในโมเดิร์นเทรดครบ 20 สาขา โดยตั้งเป้ายอดขายผ่านโมเดิร์นเทรด 5 แสนบาท/เดือน/สาขา หรือราว 100 ล้านบาท/ปี นอกจากนี้ ยังมีดีลเลอร์ในต่างจังหวัดมาเจรจาอีกหลายราย

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทในขณะนี้ แบ่งเป็นขายให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม 25% ที่อยู่อาศัยและผู้บริโภครายย่อย 25% รีสอร์ท 25% และโรงแรม 25% ซึ่งภาพรวมธุรกิจสี ปีนี้แข่งขันสูงขึ้นจากตลาดอสังหาฯที่เติบโตขึ้น รวมทั้งการขยายงานทั้งกลุ่มที่อยู่อาศัย โรงแรม และรีสอร์ท

บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาขยายตลาดต่างประเทศรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เช่น พม่า และลาว ซึ่งการทำตลาดในประเทศลาวนั้นเบื้องต้นคงต้องทำตลาดภาคอีสานของไทยให้แข็งแรงก่อนและจะขยายไปลาวก็จะง่ายขึ้น ตลาดพม่าก็มองว่าเป็นโอกาสที่ดี

นายสุรพล กล่าวว่า บริษัทมีกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 500,000 ลิตร/เดือน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิต 70% โดยหากรายได้เติบโตปีละ 10% ทุกปี กำลังการผลิตที่มีอยู่ก็ยังเพียงพออย่างน้อยในช่วง 2 ปีนี้ แต้หากเมื่อใดรายได้แตะ 500 ล้านบาท/ปี ก็คงจะต้องเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับยอดขายที่เติบโตขึ้น ซึ่งการขยายกำลังการผลิตแต่ละครั้งจะเพื่มขึ้น 20% และคาดว่าจะใช้งบลงทุน 20-30 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ