ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในด้านลบของเงินเยนที่แข็งค่า และความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างจีนและญี่ปุ่นที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของภาคเอกชน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 49.45 จุด หรือ 0.58% แตะที่ 8,546.78 จุด
หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มผู้ผลิตโลหะนอกกลุ่มเหล็ก และกลุ่มประกัน ร่วงลง ส่วนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มน้ำมัน และกลุ่มขนส่งทางบก ดีดตัวขึ้น
ดัชนีนิกเกอิร่วงลงกว่า 80 จุดในช่วงเช้า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วัน และตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงติดต่อกัน 2 วัน
ต่อมาในช่วงบ่าย ดัชนีนิกเกอิลดช่วงลบและเริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่แดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มปรับโพสิชั่นด้วยการเข้ามาช้อนซื้อหุ้น แต่ดัชนีนิกเกอิก็ไม่สามารถประคองตัวให้ปิดในแดนบวกได้ เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากคำสั่งขาย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB- ซึ่งสูงกว่าระดับขยะเพียงขั้นเดียวเท่านั้น โดยเอสแอนด์พีระบุว่า เศรษฐกิจของสเปนอยู่ในภาวะที่ถดถอยรุนแรงและจำกัดทางเลือกด้านนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาหนี้ภายในประเทศ
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ร่วงลงเป็นส่วนใหญ่ หลังจากมีรายงานว่ายอดขายรถยนต์ของญี่ปุ่นในประเทศจีน หดตัวลง 40.8% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ หุ้นนิสสันร่วงลง 1.2% หุ้นฮอนด้าติดลบ 0.6% ขณะที่หุ้นโตโยต้า รูดลง 1.4% หลังจากโตโยต้าประกาศเรียกคืนรถ 14 รุ่นทั่วโลก เนื่องจากปัญหาที่กระจกไฟฟ้า