(เพิ่มเติม) GL เล็งเป้าสินเชื่อจักรยานยนต์ล้านคันภายในปี 58,เทคฯไฟแนนซ์ในเวียดนาม-อินโดฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 25, 2012 16:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรุ๊ปลีส(GL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ที่ 1 ล้านคัน ภายในปี 58 โดยจะเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างรวดเร็วในประเทศไทยและกัมพูชา ซึ่งตลาดรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะในกัมพูชาถือว่ามีศักยภาพขยายตัวสูงมาก ภายใน 3 ปีตั้งเป้าให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ในกัมพูชาเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดให้ถึง 3 แสนคัน ส่วนตลาดในประเทศไทยตั้งเป้า 2 แสนคันภายใน 3 ปี

นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนเข้าซื้อกิจการบริษัทไฟแนนซ์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ในเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็น 2 ตลาดในอาเซียนที่มียอดขายรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะเงินลงทุนรายละประมาณ 4 พันล้านบาท และบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายบเครือข่ายธุรกิจในลาวและพม่า

"เป้าหมายยอดขาย 1,000,000 คัน ภายใน 3 ปีที่ว่านี้จะสามารถบรรลุได้โดยการเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็วในตลาดประเทศไทยและกัมพูชา ตลอดจนแผนการเทคโอเวอร์บริษัทไฟแนนซ์ในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งให้บริการสินเชื่อในธุรกิจเดียวกัน"นายโคโนชิตะ กล่าว

นายโคโนชิตะ กล่าวว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชามีศักยภาพในการขยายตัวสูงมาก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ GL ได้จัดตั้งบริษัท GL Finance (GLF) ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์แห่งแรกในประเทศกัมพูชา โดยได้ร่วมธุรกิจกับฮอนด้า ซึ่งเป็นเจ้าตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชา ในการให้บริการสินเชื่อกับผู้ซื้อรถจักรยานยนต์กับตัวแทนจำหน่ายของฮอนด้าทั่วประเทศกัมพูชา

ในขณะที่ยอดให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมีมากกว่า 100,000 คัน และคาดว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว คือ 200,000 คันภายใน 3 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าว่ายอดการให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปถึง 300,000 คัน ภายในเวลาเดียวกัน เนื่องจากประเทศกัมพูชาเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพในการขยายตัวมหาศาล

"ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กกว่าประเทศไทยและมีประชากรเพียง 15 ล้านคน แต่ประเทศกัมพูชามีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง และอัตราส่วนการเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ต่อประชากรทั้งหมดยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยในปัจจุบันนี้ชาวกัมพูชา 8 คนโดยเฉลี่ยจะเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์เพียงหนึ่งคัน และอัตราส่วนนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นชาวกัมพูชา 4 คน จะเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ 1 คัน ใน 2-3 ปีข้างหน้า และบริษัท GLF ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ GL จะสามารถรับประโยชน์อย่างเต็มๆ จากตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนี้"

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท GL เป็นที่ยอมรับในธุรกิจการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ว่ามีขั้นตอนการอนุมัติเงินกู้ที่รวดเร็ว และมีบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพสูง และในขณะเดียวกัน บริษัทยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากบริษัทผู้ผลิตจักรยานยนต์ชั้นนำทั้งหลาย

เพื่อเป็นการขยายฐานยอดขายให้เติบโตเร็วยิ่งขึ้น นายโคโนชิตะ กล่าวว่า GL ยังมีแผนเข้าเทคโอเวอร์บริษัทไฟแนนซ์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นอีก 2 ตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ยอดขายรถจักยานยนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการขยายเครือข่ายธุรกิจเข้าไปในประเทศลาวและพม่าด้วย

นายโคโนชิตะ กล่าวอีกว่า บริษัทได้ตั้งงบลงทุนในการซื้อกิจการบริษัทไฟแนนซ์ในเวียดนามและอินโดนีเซียที่ 4 พันล้านบาท/แห่ง เป็นระดับใก้ลเคียงมาร์เก็ตแค็บของบริษัท ส่วนผลสรุปของการซื้อกิจการคงไม่สามารถบอกได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เหมาะสม โดยแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในการซื้อกิจการ มาจากการกู้เงินจากสถาบันการเงินในสิงคโปร์ ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าการกู้เงินในประเทศไทย รวมถึงการเพิ่มทุน และการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Secueritazation) โดยปัจจุบันบริษัทมีระดับหนี้สินต่อทุน(DE) ที่ 0.69 เท่า ถือว่าต่ำ ยังมีช่องทางก่อหนี้ได้อีกมาก

ด้านนายดีพงศ์ สหะชาติศิริ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน GL กล่าวว่า ในปี 55 บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เติบโต 3%ต่อเดือน โดยเป็นโอกาสการวางกลยุทธทางธุรกิจในเชิงรุก และวางบริการที่แตกต่างคู่แข่ง สิ้นปี 54 มีสินเชื่อเช่าซื้อคงค้างที่ 1.916 พันล้านบาท ขณะที่มองรายได้ของบริษัทน่าจะดีกว่าปีก่อน มีโอกาสเติบโตมากกว่าตลาดจากยอดรวมการผลิตรถจักรยานยนต์ เนื่องจากปลายปีก่อนได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ