TMC ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 8.75 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 124.36%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 26, 2012 12:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น TMC ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 8.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.85 บาท(+124.36%)จากราคาขาย IPO ที่ 3.90 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,409.92 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 11.00 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 11.10 บาท และราคาลงต่ำสุด 8.55 บาท

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม (TMC) ที่เปิดเทรดวันแรกแรงถึง 11 บาท โดยพุ่งไปกว่า 180% จากราคา IPO ที่ 3.90 บาท เป็นไปตามกระแสหุ้น IPO ที่ทุกคนเชื่อมั่นในหุ้น IPO ซึ่ง TMC เป็นตัวสุดท้ายของปีนี้สำหรับ บล.ฟินันเซีย ที่เหลือเป็นของปี 56 ที่เบื้องต้นมีดีลในมือแล้ว 3-4 ตัว เข้าจดทะเบียนทั้ง SET และ mai เป็นธุรกิจปล่อยสินเชื่อรายย่อย,สินเชื่อเช่าซื้อ อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะนำเข้าตลาดเพราะถ้าออกมากเกินไปก็ไม่ดี

"เป็นเรื่องของกระแส IPO ฟีเวอร์ยุคนี้ เพราะช่วงหลังนี้นักลงทุนเชื่อมั่น IPO มาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะออกมาแบบไม่กระจุกตัว ซึ่งเชื่อว่าความต้องการ IPO ยังมีสูงอยู่ตราบใดที่ภาพใหญ่ตลาดยังดีอยู่ IPO น่าจะยังดีต่อเนื่องถึงปี 56"นายสมภพ กล่าว

นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ TMC กล่าวว่า ราคาหุ้นเปิดเทรดวันแรกปรับขึ้นแรงเพราะนักลงทุนเชื่อมั่นในพื้นฐานของบริษัทในอนาคตเพราะอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโตดี โดยสัดส่วนรายได้ 50% จากกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ อีก 50% เป็นอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ซึ่งการใช้เครื่องจักรการเกษตรทดแทนแรงงานคนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการผลิตสูงสุดกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด

ไตรมาส 3/55 คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/55 เพราะได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เติบโตสูงขึ้นมาก และทั้งปีก็คาดว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่จะเติบโต 30% จากปีก่อน โดยครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 436 ล้านบาท และยังมีงานในมือ(backlog)อีก 422 ล้านบาท ซึ่งจะส่งมอบภายในปีนี้ทั้งหมด และครึ่งปีหลังนี้ยังมีปัจจัยบวกเสริมจาก backlog และออร์เดอร์ที่จะทยอยเข้ามาต่อเนื่อง เชื่อว่าจะทำให้ยอดรายได้โตตามเป้า

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าปีนี้จะรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 13% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 28.9%

สำหรับแผนการสร้างโรงงานแห่งใหม่แบ่งเป็น 2 เฟส จะเริ่มไตรมาส 1/56 เฟสแรกจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 25% จากนั้นเฟส 2 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 57 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตรวมเฟสแรกเพิ่มขึ้น 60% ในปลายปี 57 บริษัทจึงตั้งเป้ารายได้จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 25% นับจากนั้น ส่วนปี 56 คาดว่ารายได้จะทำได้แตะ 1,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ