นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม(TMC) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/55 คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2/55 และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเตรียมรับรู้รายได้จากการส่งมอบเครื่องจักรให้กับลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาตามภาวะการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์
“อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังเป็นขาขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกทำให้ธุรกิจของบริษัทมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เนื่องจากลูกค้าหลักของบริษัทอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งด้วยจุดเด่นการมีเครื่องจักรที่ทันสมัย พร้อมรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่หลากหลาย และจากการคาดการณ์การรับรู้รายได้จากเครื่องจักรที่ส่งมอบในไตรมาสนี้จำนวนหนึ่ง จึงทำให้มั่นใจว่าปัจจัยบวกที่กล่าวมาจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/55 ของ TMC จะสามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง"นายสุรเชษฐ์ กล่าว
หลังจากที่บริษัทได้เงินจากระดมทุนแล้วส่วนหนึ่งจะนำเงินไปสร้างโรงงานแห่งที่ 3 เนื่องจากโรงงานแห่งที่ 1 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเต็ม 100% ส่วนโรงงานแห่งที่ 2 มีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 86.99% ไม่เพียงพอกับคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นรายได้หลักกว่า 50% ซึ่งโรงงานแห่งใหม่จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส พื้นที่ใช้สอยเฟสละ 4,800 ตารางเมตร เฟส 1 จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาส 1/56 ส่วนเฟสที่ 2 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายหลังเฟสที่ 1 แล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้TMC สามารถวางแผนผังสายการผลิตได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและใช้เวลาในการผลิตน้อยลง
ทั้งนี้ประเมินว่าหากโรงงานแห่งที่ 3 ดำเนินการแล้วเสร็จจะผลักดันให้ TMC มีรายได้เติบโตไม่น้อยกว่าปี 54 ซึ่งมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% เนื่องจากโดยขณะนี้ TMC มีงานในมือ (Backlog)แล้วประมาณ 422 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปี 55 โดยจำนวนนี้ยังไม่นับงานใหม่ๆ ที่คาดว่าจะมีเข้ามาเพิ่มเติมอีก
สำหรับสัดส่วนรายได้ของ TMC ในปีนี้จะมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ประมาณ 50% เครื่องใช้ไฟฟ้าประมาณ 15% เกษตรแปรรูปประมาณ 7% ที่เหลือเป็นอุตสาหกรรมอื่นๆ