การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,310.50 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,303.44 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 254 หลักทรัพย์ ลดลง 286 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 154 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งแคบทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดฯยังไม่ได้มีปัจจัยเด่นอะไรเข้ามา ประกอบกับ กำลังจับตาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ หลังเลือกตั้งหากผลออกมาแล้วนายบารัค โอบามา ชนะการเลือกตั้ง มองว่านโยบายคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก และตลาดฯก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงเท่าไร แต่หากนายมิตต์ รอมนีย์ ชนะอาจจะเป็น Positive ต่อตลาดในช่วงสั้นได้ เพราะนโยบายดูจะ Aggressive มากกว่า โดยเฉพาะภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ก็จะต้องรอดูการประชุม ECB ด้วย ซึ่งจะมีการพิจารณาในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย แต่สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมผู้นำอียู ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องของกรีซที่จะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินไหม และสเปนจะรับความช่วยเหลืออย่างไร
"ตลาดบ้านเราช่วงนี้คงจะให้น้ำหนักที่ปัจจัยจากนอกประเทศเป็นหลัก แต่ก็ยังมีการเข้ามาเล่นเก็งหุ้นรายตัวโดยอิงตามงบฯ"น.ส.ธีรดา กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(6 พ.ย.)น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,298 จุด แนวต้าน 1,310-1,315 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,328.83 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,731.85 ล้านบาท ปิดที่ 189.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 1,133.31 ล้านบาท ปิดที่ 83.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
TCAP มูลค่าการซื้อขาย 971.98 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 884.19 ล้านบาท ปิดที่ 390.00 บาท ลดลง 12.00 บาท