สหพันธ์องค์กรผู้บริโภคจวก กสทช.พา 3G สู่ทางตันจากเกณฑ์ประมูลที่ตั้งเอง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 22, 2012 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค เปดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังจากที่ได้ยื่น หนังสือถึงกรรมาธิการศึกษา เพื่อตรวจสอบ เรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบ การฮั้วและธรรมาภิบาลในการประมูลใบอนุญาตใช้คลื่น 2.1 GHz ในการให้บริการ 3 จี ของสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่าขณะนี้ กรรมาธิการได้ส่ง เรื่องไปให้กับคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมา ไต่สวน โดยได้นัดผู้บริโภคไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม วันที่ 3 ธันวาคมนี้

อย่างไรก็ตาม บริการ 3จี เป็นบริการที่จะเกิดประโยชน์ทั้งกับผู้ใช้บริการทั่วไป ทั้งการแพทย์ในถิ่นห่างไกล และคนพิการ แต่ที่ผ่านมามีปัญหาให้สังคม คลางแคลงใจ เพราะการกำหนดเกณฑ์วิธีการประมูลของ กสทช.เอง ที่สร้างความกังขาให้กับสังคม ทั้งนี้ ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ทุกอย่างที่ดำเนินการ มุ่งเน้นที่ประโยชน์ของประชาชนและอยากใช้บริการ 3 จีโดยเร็ว

แต่ กสทช.ไม่น่าดันทุรังพา 3 จี ไปสู่ทางตัน เพราะการกำหนดเกณฑ์การประมูลของ กสทช. เอง ที่สร้างความกังขาให้สังคม ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบทั้งผ่านวุฒิสภา องค์กรอิสระและศาล และทำให้ 3 จี ต้องถูกแช่แข็งถอยไม่ได้ไปไม่เป็น ประเทศเสียประโยชน์ ทั้งที่ผู้บริโภคเรียกร้องให้จัดประมูลใหม่ บนเกณฑ์ที่ทำให้เกิดการแข่งขัน แต่กสทช.ยังคง ยืนยันว่าได้ดำเนินการถูกต้องแล้วเปนการเอาแพ้ชนะ ทั้งที่หากยอมรับว่า มีความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้วแก้ไข ประชาชนก็พร้อมให้กำลังใจกสทช. ทำหน้าที่อย่างสง่างามต่อไป

นางสาวบุญยืน กล่าวถึงกรณีที่ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.)ได้กำหนดเงื่อนไขในการให้ใบอนุญาต 3 จี ว่า ต้องรอคำสั่งศาลปกครอง รอผลการสอบของคณะทำงานสอบฮั้วประมูล และมีแผนลดค่าบริการทั้งเสียงและ ข้อมูลของผู้ให้บริการก่อนว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่สังคมกังขาคือ วิธีการออกแบบการประมูลที่ไม่เอื้อให้เกิดการแข่งขันหรือทำให้เกิดการฮั้วประมูล ซึ่งผู้ที่ต้องถูกตรวจสอบคือ กสทช. ว่าได้กำหนดวิธีการประมูลได้ถูก ต้องเหมาะสมและก่อให้เกิดการแข่งขันหรือไม่ แต่ขณะนี้ กสทช.กำลังใช้บริการ 3 จี มาเปนตัวประกันให้กับการ ถูกตรวจสอบของตัวเอง โดยมีผู้เสียหายคือผู้บริโภคและบริษัท

“ใครกันแน่ที่แช่แข็งประเทศชาติจากบริการนี้ พอ กทค.ถูกตรวจสอบก็สร้างเงื่อนไขว่าจะไม่ให้ใบอนุญาตจนกว่า ศาลจะมีการตัดสินทั้งที่เป็นการสอบสวนเพื่อตัดสินเกี่ยวกับการดำเนินการของหน่วยงาน ไม่เกี่ยวกับบริษัท พอถูกกล่าวหาว่ากำหนดราคาการประมูลต่ำเกินไป ก็เอาเรื่องราคาค่าบริการมาเป็นเงื่อนไขซ้ำอีก โดยไปกำหนดให้บริษัททำแผนการลดราคามาเสนอก่อนไม่เช่นนั้นจะไม่ให้ใบอนุญาต ทั้งที่ กทค.เปนหน่วยงานกำกับดูแล ไม่ใช่ หน่วยงานสร้างเงื่อนไขการให้บริการ โดยเฉพาะเรื่องราคาค่าบริการนั้น เมื่อบริษัทสมประโยชน์แล้ว การให้ลดราคาให้เป็นเรื่องยาก เพราะใครทำธุรกิจสิ่งที่ต้องการชัดเจนก็คือ กำไร กทค. จึงต้องกำหนดเป็นมาตรการในการ กำกับราคาค่าบริการทั้งเสียงและข้อมูลออกมามากกว่า การมาบังคับให้บริษัททำแผนการลดราคาค่าบริการโดยใช้ เรื่องการให้ใบอนุญาตคลื่นความถี่เป็นเครื่องมือ " นางสาวบุญยืนกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ