(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อ Flow หนุน แต่อาจมีขายทำกำไรเป็นระยะ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 13, 2012 09:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับขึ้นต่อจาก Fund Flow ที่เห็นความต่อเนื่องมากขึ้น หลังวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4 พันกว่าลบ. จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิราว 2 พันลบ.
ทั้งนี้ ใน 1-2 วันนี้ ยังมีแรงหนุนให้ตลาดไนไทยปรับขึ้น แต่อาจไม่แรงเพราะการปรับขึ้นจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเรื่อยๆ
"มองว่า 1-2 วันนี้ยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ก่อนที่แรงซื้อจะแผ่วลงช่วงครึ่งหลังธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงใกล้ฉลองคริสมาสต์และปีใหม่" นายปริญทร์ กล่าว

สำหรับตลาดต่างประเทศ ดาวโจนส์ ทรงตัว แต่มีแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 4 (QE4) แทนมาตรการ Operation Twist ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้บวกลบกรอบแคบ

มองแนวโน้มดัชนีวันนี้เคลื่อนไหวในช่วง 1,350-1,360 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(12 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,245.45 จุด ลดลง 2.99 จุด (-0.02%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,428.48 จุด เพิ่มขึ้น 0.64 จุด(+0.04%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,013.81 จุด ลดลง 8.49 จุด(-0.28%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 99.74 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 2.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 23.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.74 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.40 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1.60 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.48 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.70 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(12 ธ.ค.)1,354.57 จุด เพิ่มขึ้น 13.24 จุด(+0.99%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,377.59 ล้านบาท เมื่อ 12 ธ.ค.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(12 ธ.ค.) ที่ 86.77 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.98 ดอลลลาร์หรือ 1.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(12 ธ.ค.) ปิดที่ 6.2 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.63/65 ทรงตัวแม้เฟดประกาศใช้ QE4 นลท.จับตาเลือกตั้งญี่ปุ่น
  • "แบงก์ชาติ"เผยตลาดหุ้นไทยยังไร้สัญญาณฟองสบู่ แม้ดัชนีปรับขึ้นต่อเนื่องช่วงที่ผ่านมาแต่สะท้อนพื้นฐานบริษัทจดทะเบียน ส่วนภาคอสังหาฯยังไม่พบสัญญาณซื้อขายเก็งกำไร แต่ยอมรับเริ่มเห็นการผิดนัดชำระหนี้ภาคที่อยู่อาศัยที่เริ่มสูงขึ้นในระยะหลัง ด้านนักลงทุนสถาบันเชื่อหุ้นไทยแค่ฟองสบู่เล็กๆ มองอีก 3 ปี มีลุ้นเกิน 2,000 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับขึ้น13 จุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปีต่อเนื่อง ตลาดแนะผู้ลงทุนติดตามข้อมูล
  • เอสแอนด์พีประกาศคงอันดับเครดิตของประเทศ ชี้อาจปรับลดลงหากฐานะการคลังและตัวชี้วัดเศรษฐกิจลดลงจากนโยบายประชานิยม เชื่อการเมืองนิ่งดันเศรษฐกิจขับเคลื่อน เครดิตประเทศจะแข็งแกร่งขึ้น
  • รมว.คมนาคมเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตว่า หารือรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังแล้วได้ข้อตกลงร่วมกันว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)จะสามารถลงนามในสัญญา 1 งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและอาคารซ่อมบำรุง วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาทได้หลังสรุปผลประกวดราคาสัญญา 2 งานโยธาสำหรับทางรถไฟ โดยไม่ต้องรอให้การประกวดราคาสัญญาที่ 3 งานระบบรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ เพื่อไม่ให้โครงการล่าช้า คาดว่าจะลงนามได้ในเดือนธันวาคมนี้
  • เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เปิดเผยในงานสัมมนา"รุกหรือรับ โอกาสสำหรับธุรกิจไทยในอาเซียน"ว่า ขณะนี้ธนาคารโลกได้จัดอันดับความน่าสนใจการลงทุนในอาเซียนพบว่าต่างชาติสนใจอินโดนีเซียมากที่สุด เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่มีประชากรกว่า 240 ล้านคน รวมทั้งมีแรงงานและทรัพยากรในปริมาณที่เพียงพอ รองลงมาเป็น เวียดนาม พม่า ไทย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว มาเลเซีย และ สิงคโปร์
  • อดีตผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายของพม่ามีคู่สัญญาตามกฎหมายเพียง 2 รายเท่านั้น คือรัฐบาลพม่ากับ ITD ซึ่งเป็นเอกชนรายเดียวที่ต้องดำเนินโครงการขนาดใหญ่โดยลำพังก็อาจจะไม่ไหว จึงต้องหาคนมาช่วยดำเนินการโดยเฉพาะเงินลงทุนในการพัฒนาโครงการต่อไป หลายฝ่ายมองมาที่รัฐบาลไทยว่าควรเข้าไปช่วย แต่รัฐบาลก็ต้องกำหนดจุดยืนให้ชัดก่อนว่าจะเข้าไปช่วยได้แค่ไหน หากจะเป็นผู้ร่วมลงทุน ก็ต้องให้มีการแก้ไขสัญญาให้รัฐบาลไทยเข้าไปเป็นผู้ร่วมลงทุนด้วย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • JAS(กสิกรไทย)"ซื้อ"พื้นฐาน 5.90 บาท เชื่อจุดประสงค์เหมือนที่ผ่านมาคือต้องการลดทุนจดทะเบียน ไม่ใช่การขายหุ้นที่ซื้อคืนในตลาด คาดจะเสร็จสิ้นใน 1Q56 และจะทำให้กำไรต่อหุ้นตามประมาณการเราเพิ่มขึ้น 1.5% ในปี 56-57 และราคาเหมาะสมเพิ่มขึ้นเป็น 6 บาท
  • PTT(กสิกรไทย)"ซื้อ"พื้นฐาน 389 บาท ประเด็นสำคัญจากข่าวลอยตัวราคา LPG-NGV โดยเราได้ทำ scenario analysis ต่อการเพิ่มขึ้นของราคาก๊าซเราพบว่าหากราคาก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นทุกๆ 10% จะทำให้คาดการณ์กำไรของเราเพิ่มขึ้น 2% ถ้าหากปรับราคาก๊าซ LPG เพิ่มขึ้นไปที่ 550 เหรียญต่อตัน จะทำให้มีคาดการณ์กำไรของเราเพิ่มขึ้นที่ 10-12% ในปี 56 ขณะที่ถ้าหากราคาก๊าซ NGV มีการปรับขึ้นทุกๆ 1 บาทต่อ กก.จะทำให้คาดการณ์กำไรของเราเพิ่มขึ้น 2% ในปี 56
  • BANPU(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"พื้นฐาน 508 บาท โดยมี Downside จากผลกระทบของคำพิพากษาอยู่ที่ 450 บาท

เชื่อการยื่นอุทธรณ์คดีหงสาเป็นทางการไม่มีผลกับราคาหุ้น เพราะยังต้องใช้เวลาอีกมากไม่น้อยกว่า 5-7 ปี แต่ราคามีโอกาสปรับขึ้นตามการฟื้นตัวของราคาถ่านหินที่สูงขึ้นกว่า 16% ในรอบ 1 เดือน เป็นโอกาสในการเพิ่มสัดส่วนสัญญาขายถ่านหินจากปัจจุบันที่ทำสัญญาขายไปเพียง 16% ปัจจุบันประเมินผลประกอบการปี 56 จากสมมติฐานราคาขายถ่านหินที่ 75 เหรียญต่อตัน ซึ่งหากราคาถ่านหินมีการฟื้นตัวในช่วง 3 เดือนข้างหน้าชัดเจน อาจเป็นประเด็นที่ทำให้เราทบทวนประมาณการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ