บอร์ดทีโอทีสั่งทบทวน 3G เฟส 2 หลังเฟสแรกล่าช้า แนะหันพัฒนา 4G ดีกว่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 19, 2012 17:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอุดม พัวสกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีโอที เปิดเผยว่า จากการที่ปัจจุบันคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ได้มอบใบอนุญาต(ไลเซ่นส์) 3จี บนคลื่น 2.1 GHz ให้กับเอกชนแล้ว ขณะนี้เอกชนทั้ง 3 รายได้เดินหน้านำเข้าอุปกรณ์และประกาศจะเริ่มให้บริการ 3จี ภายในไตรมาส 2/56

ขณะที่ความล่าช้าของการดำเนินงาน 3จี ของทีโอที เฟส 1 ที่ปัจจุบันยังติดตั้งโครงข่ายไม่ครบจำนวนสถานีฐานอีกกว่า 1,000 สถานี ดังนั้น คณะกรรมการจึงมีนโยบายให้ทบทวนโครงการขยายโครงข่าย 3จี เฟส 2 มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ด้วยการปรับปรุงและมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี LTE หรือ 4จี ซึ่งทีโอทีสามารถนำคลื่นความถี่ที่มีอยู่ปัจจุบันมาทำได้ ถือว่าเป็นเทคโนโลยีอนาคตมากกว่าที่จะเดินหน้า 3 จีต่อ เพื่อให้สามารถแข่งขันและรองรับความต้องการของตลาดได้ และพัฒนาเทคโนโลยี 4 จี เพื่อให้ทีโอทีมีทั้ง 3 จี และ 4 จี ที่สามารถให้บริการควบคู่กัน ซึ่งทีโอทีถือว่าเป็นรายเดียวที่มีเทคโนโลยีดังกล่าว

"บอร์ดได้มีการหารือกันว่าหากมัวแต่มาทำ 3จี ก็ไม่ทันคนอื่นแล้ว เพราะ 3จี ดูเหมือนจะช้าไปแล้วในตอนนี้ อีกทั้งเอกชนก็จะเปิดให้บริการในคลื่นความถี่ใหม่ช่วงเดือนเม.ย.56 นี้แล้ว ดังนั้น หากทีโอทีไม่มองไปข้างหน้าและยังคงให้ความสำคัญกับเรื่อง 3จี การลงทุนมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ซึ่งแผนการพัฒนา 4 จี เบื้องต้นที่วางไว้ คือการดำเนินการบนคลื่น 2.3 GHz ซึ่งทีโอทีถือครองอยู่มาทำประโยชน์ให้กับองค์กร ซึ่งหากมีแผนการใช้งานที่ชัดเจน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคืนคลื่นดังกล่าวกลับไปที่กสทช."นายอุดม กล่าว

นายอุดม กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ยังเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อกำหนดทางรอดของทีโอทีในอีก 5 ปีข้างหน้า ว่าจะมีทิศทางการดำเนินธุรกิจอย่างไรบ้าง โดยจะดูแลแผนพัฒนา 4 จี แผนการใช้คลื่นความถี่ และแผนธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น หลังจากรายได้สัมปทานของ ADVANC จะสิ้นสุดในปี 58 รวมถึงการที่ พ.ร.บ.กสทช. กำหนดให้นำส่งรายได้สัมปทานให้กับกระทรวงการคลังโดยตรง ซึ่งจะทำให้รายได้ทีโอทีกว่า 60% หายไป

นอกจากนี้ ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ คณะทำงาน 3จี จะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึง กิจการร่วมค้า เอส แอล คอนซอร์เตี้ยม ประกอบด้วย บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) , บมจ. ล็อกซ์เล่ย์ (LOXLY) , บริษัท หัวเว่ย และบริษัท โนเกีย ซีเมนส์ ที่ชนะการประมูลติดตั้งโครงข่าย 3 จี ทีโอที ที่ล่าช้ามานานกว่า 6 เดือน เพื่อเร่งการดำเนินการให้เร็วขึ้น หลังจากยังติดตั้งไม่เสร็จ

"การติดตั้ง 3จี เฟสแรกจะต้องแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือน เม.ย.56 ซึ่งถือว่าช้าเกินไป ดังนั้น บอร์ดจึงอยากให้คณะทำงานได้มีการศึกษารายละเอียดอีกครั้งว่าสาเหตุของการล่าช้าเป็นอย่างไร และมีวิธีการเช่นไรบ้างที่จะสามารถติดตั้งโครงข่าย 3จี ให้แล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนดเดิม"นายอุดม กล่าว

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการทีโอทีจะเร่งดำเนินการทุกโครงการตามนโยบายของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่ต้องการให้แผนการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพย์สินที่มีอยู่ ประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลัก(Core business) คือ การขยายโครงข่าย 3 จี เฟส 2 จำนวน 1.5 หมื่นสถานี บริการโทรศัพท์พื้นฐาน และ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ADSL) โดยกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ