นักวิเคราะห์ฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้าแกร่งตัวในกรอบแคบๆ ทั้งแดนบวกและแดนลบ จากที่มองว่ายังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามา โดยยังเป็นเรื่องเดิม คือ เงินทุนไหลเข้า และมีแรงกดดันจากแรงขาย LTF บางกองได้รับผลตอบแทนถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่งผลให้ตลาดฯ วันนี้ยังคงไม่ไปไหน โดยวันนี้ให้แนวต้าน 1,415 จุด ส่วนแนวรับ 1,400-1,405 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้คงจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทั้งในแดนบวกและแดนลบสลับกันไป เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา เพราะยังเป็นเรื่องเดิมคือเรื่องเงินทุนไหลเข้า แต่จะมีแรงกดดันจากแรงขายของ LTF บางกองที่ผลตอบแทนถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้แล้ว จึงมองว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้คงยังไม่ไปไหนไกลในช่วงนักลงทุนรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามา
ส่วนการที่มูดี้ส์ออกมาเตือนเกี่ยวกับอันดับเครดิตของสหรัฐฯ เหมือนเป็นการตอกย้ำความกังวลของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.เรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ ถ้าหากไม่มีแผนการลดการใช้จ่ายก็อาจจะเสี่ยงทำให้สหรัฐฯถูกลดอันดับเครดิตลง
ขณะที่ตลาดภูมิภาควันนี้คาดว่าจะมีทั้งเคลื่อนไหวบวกและลบ ค่อนข้างไร้ทิศทาง
พร้อมให้แนวรับของดัชนีวันนี้ไว้ที่ 1,400-1,405 จุด และแนวต้านที่ 1,415 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(3 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,391.36 จุด ลดลง 21.19 จุด(-0.16%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,459.37 จุด ลดลง 3.05 จุด(-0.21%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,100.57 จุด ลดลง 11.70 จุด(-0.38%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 209.32 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.57 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.54 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 4.60 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(3 ม.ค.)1,408.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.96 จุด(+0.07%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 340.60 ล้านบาท เมื่อ 3 ม.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(3 ม.ค.)ที่ 92.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.20 ดอลลลาร์หรือ -0.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(3 ม.ค.) ปิดที่ 7.7 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.42/44 คาดอ่อนค่าตามภูมิภาค
- "เผดิมชัย" ชี้ ผลกระทบค่าจ้าง 300 บาทปะทุเดือนมี.ค. ถก"กิตติรัตน์"ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่ม กระทรวงแรงงานระบุ "วีณาการ์เมนต์" ปิดจากขาดทุนสะสม อุตฯ "สิ่งทอ-นุ่งห่ม-ของขวัญ" ระบุพิษค่าแรงซ้ำเติมตลาดส่งออกยุโรปทรุด เร่งธุรกิจล้มเร็วขึ้น งัดสารพัดมาตรการปรับตัว "หั่นโอที- จ้างเหมา-เอาท์ซอร์ส" แทน คาดกลางปีหลายโรงงานแห่ลงทุนเพื่อนบ้าน เตรียมประเมินหลังไตรมาส 2 โรงงานปิดตัวมากกว่าครึ่ง หลังรัฐไร้มาตรการเยียวยา
- พม่าเสนอตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ถือสัญญาแทนอิตาเลียนไทยมีปัญหาระดมทุน พม่าบีบไทยหนุนตั้ง"โฮลดิงคอมพานี" ถือสัญญาทวายแทน อิตาเลียนไทยฯ โดยเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)เปิดเผยว่า รัฐบาลเมียนมาร์ต้องการปรับเปลี่ยน Framework Agree ment โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึก โดยเปลี่ยนคู่สัญญาจา ITD เป็นบริษัทโฮลดิงคอมพานีใหม่
- "กิตติรัตน์"จี้คมนาคมเร่งเคลียร์ปัญหาสัญญารถไฟสายสีแดง เร่งชงเข้า ครม.เดินหน้า หรือประมูลใหม่ เพราะขณะนี้พบว่าสัญญาที่ 1 และ 2 มีความคืบหน้า แต่สัญญาที่ 3 มีปัญหายืดเยื้อ จึงควรเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ดังนั้นทางกระทรวงคมนาคม ต้องรับไปดำเนินการให้เกิดความชัดเจนในสัญญาที่ 3 โดยระยะเวลาไม่ควรเกิน 6 เดือน เพื่อเสนอกลับเข้ามาใน ครม.ว่าจะเลิกการประมูลสัญญาเดิม หรือเปิดประมูลใหม่ หรือจะทำอย่างไรกับผู้ประมูล 4 ราย
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า วันที่ 14 ม.ค.2556 สถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสจะเดินทางเข้ามาเก็บข้อมูลด้านต่างๆ ในไทย เพื่อประเมินเครดิตของไทยใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ฟิทช์ เรทติ้งส์ เข้ามาเก็บข้อมูลในไทยไปเมื่อวันที่19 ธ.ค.ที่ผ่านมาและคาดว่าจะรายงานผลการจัดอันดับช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยติดตามภาวะเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องทั้งในตลาดหุ้น และตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประเมินเบื้องต้นยังไม่เห็นปรากฏการณ์ฟองสบู่ สินเชื่อสถาบันการเงินขยายตัว 15% สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐขยายตัวถึง 17-18% ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค ไม่ใช่เพื่อที่อยู่อาศัย แต่ยังคงติดตามใกล้ชิดว่าจะสร้างปัญหาความไม่มีเสถียรภาพทางการเงินหรือไม่ในระยะต่อไป
*หุ้นเด่นวันนี้
- BBL(กรุงศรี)"ซื้อ"เป้าใหม่ 233 บาท กลยุทธการเติบโตอิงกับฐานลูกค้าธุรกิจมากกว่าลูกค้าบุคคล ทำให้การเติบโตของสินเชื่อและผลการดำเนินงานในปี 55 อาจจะไม่โดดเด่นนัก แต่มีมุมมองบวกต่อปี 56 จากการบริโภคและการลงทุนของทั้งเอกชน-รัฐ, ราคาหุ้นยังไม่แพงซื้อขาย P/BV ที่ 1.2 เท่า ในปี 56 ปรับมูลค่าพื้นฐานเพิ่มจากเดิม 231 บาท จากการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 55-56 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.8% อิงจาก Prospective P/BV ที่ 1.5 เท่า (ROE 13%, Ke 10.7%)
- DEMCO(เมยแบงก์กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 10.45 บาท ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 56 ขึ้น 14.6% ผลักดันจากงานวิศวกรรมไฟฟ้าแข็งแกร่งกว่าคาด ขณะที่แรงกดดันระยะสั้นจากการขายหุ้นทุนซื้อคืนไม่มีนัยสำคัญแล้ว ภาพระยะยาว Upside การลงทุนโครงการพลังงานลมอีก 7 แห่งน่าสนใจมาก