(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับฐานเล็กน้อยตามภูมิภาค แต่หวังแรงซื้อต่างชาติหนุน

ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้แม้ตลาดฯจะปรับตัวลงมาแต่ก็จะมีแรงซื้อคืนกลับไป

พร้อมแนะให้ติดตามผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่กำลังจะประกาศออกมา และเกาะติดตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯและจีนต่อไป โดยให้แนวรับ 1,400 จุด แนวต้าน 1,420 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(7 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,384.29 จุด ลดลง 50.92 จุด(-0.38%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,461.89 จุด ลดลง 4.58 จุด(-0.31%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,098.81 จุด ลดลง 2.84 จุด(-0.09%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 54.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 65.72 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 18.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 8.03 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.60 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1.84 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.80 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 4.10 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(7 ม.ค.)1,415.32 จุด ลดลง 1.34 จุด(-0.09%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,427.20 ล้านบาท เมื่อ 7 ม.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(7 ม.ค.)ที่ 93.19 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.10 ดอลลลาร์หรือ 0.1%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(7 ม.ค.) ปิดที่ 7.6 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.43/45 เงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
• ครม.พิจารณาวันนี้ออกมาตรการลดผลกระทบค่าแรง 300 บาท ยันไม่ตั้งกองทุนชดเชยส่วนต่าง กกร.เตรียมดันอีกรอบ เงินชดเชย-ขอมาตรการช่วยเพิ่ม พร้อมเข้าพบนายกฯแจงข้อมูล ขณะแรงงานเผยเลิกจ้างแล้ว 4 แห่ง 275 คน
• กรมการค้าภายในการันตี 3 เดือน ไม่มีสินค้าปรับราคา เบรกปลากระป๋องห้ามขึ้นราคายันมีสต็อกเก่าถึง 3 เดือน เผยผลกระทบค่าแรง ส่งผลราคาสินค้ากลุ่มผักสดจากค่าขนส่งเพียง 0.35-0.8% ย้ำอาหารจานด่วนไม่ควรปรับราคาเกินจานละ 1 บาท "บุญทรง"ถก กกร.วันนี้ ดึงผลปาล์มดิบสินค้าควบคุม เตรียมจับบริการบำรุงรักษารถยนต์เป็นบริการควบคุม คุ้มเข้มก่อนประชาชนถูกเอาเปรียบ หลังยอดรถคันแรกพุ่งกระฉูด
• สื่อญี่ปุ่นประโคมข่าวรัฐบาลใหม่เตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าราว 136,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการใช้เงินเกือบ 5,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่น รวมถึงให้ความช่วยเหลือในการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ
• นายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหา เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) จะพิจารณาอนุมัติโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 3,183 คันมูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาทในวันที่ 8 ม.ค.โดยให้มีเพียงสัญญาเดียวเพราะจะเข้าข่ายการล็อกสเปก และยังมีราคาแพงถึงคันละ 4 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ควรจะเป็นที่ต้องไม่เกินคันละ 3 ล้านบาท
• รมว.แรงงาน เผยหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ในพื้นที่ 7 จังหวัดนำร่อง เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2555 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ได้ออกสำรวจระหว่างวันที่ 10 ก.ค.-31 ธ.ค.2555 พบว่ามีสถานประกอบการ 76 แห่งปิดกิจการ และเลิกจ้างลูกจ้างรวม 10,696 คน
• รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมระดับหัวหน้าหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อเร่งรัดและการดำเนินงานว่า กระทรวงคมนาคมมีงานจำนวนมากที่จะต้องเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เริ่มจาก พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการประสานงานกับกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิดในรายละเอียด เพราะต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน ม.ค.นี้
• รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยข้อมูลงบดุลของ ธปท. ในปี 2555 ล่าสุดในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ในส่วนของบัญชีฝ่ายกิจการธนาคารยังมีโอกาสที่จะเกิดผลขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการแข็งค่าของเงินบาท และรายจ่ายดอกเบี้ยของ ธปท.ที่ยังคงสูงกว่ารายรับดอกเบี้ยจากการนำทุนสำรองไปลงทุน

*หุ้นเด่นวันนี้

• HEMRAJ(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 3.50 บาท มองธุรกิจในปี 56 แข็งแกร่งขึ้นจากการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากการขายที่ดินที่ยังเติบโตต่อเนื่องจาก Backlog กว่า 4 พันล้านบาท และยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากบริการสาธารณูปโภคพื้นฐานในนิคมฯ มีเงินปันผลจากการลงทุนใน GHECO-ONE และรายได้จากธุรกิจให้เช่า Logistic Park จะมีสามารถสร้างรายได้ที่เติบโตและต่อเนื่องในระยะยาวได้
• AP(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 9.50 บาท เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick กลุ่มบ้านที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใกล้เคียงกัน คาดการณ์ว่าผลประกอบการ 4Q55 จะมีกำไรที่ดีที่สุดในรอบปี และต่อเนื่องถึงปี 56 จากมูลค่าโครงการในมือกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังเป็นบริษัทในกลุ่มบ้านที่จ่ายเงินปันผลปีละครั้ง โดยคาดว่าจะจ่าย 28 สตางค์ต่อหุ้น ให้ผลตอบแทนเงินปันผล 3%
• DTAC(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 116 จำนวนผู้ใช้บริการยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดสิ้นปี 55 อยู่ที่ 24.8 ล้านราย เพิ่มขึ้นจาก 3Q55 ที่มีจำนวน 23.9 ล้านราย ขณะที่รายได้จากการให้บริการข้อมูลยังเติบโตดีตามปัจจัยฤดูกาล ส่วนรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์และชุดหมายเลขเติบโตโดดเด่นจากการเปิดตัว iPhone 5 พร้อมประมาณการกำไรสุทธิปี 55-56 ราว 11,364 ล้านบาท และ 13,530 ล้านบาท
• KCE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 12.90 บาท คาดเริ่มกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานปกติตั้งแต่ 4Q55 หลังโรงงาน KCE Tech อยุธยาติดตั้งเครื่องจักรใหม่แล้วเสร็จ และกลับสู่จุดคุ้มทุนการผลิต และมองบวกต่อผลประกอบการปี 2556 จากปริมาณของเสียแนวโน้มลดลง พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 56 ทำระดับสูงสุดใหม่ +259% yoy เป็น 604 ล้านบาท และแนวโน้มเติบโต qoq ตั้งแต่ 4Q55 และต่อเนื่องไปถึง 4Q56 เป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น และยังมี Valuation ที่ค่อนข้างต่ำ
• TCAP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 47.50 บาท คาดกำไรสุทธิ 4Q55 มีแนวโน้มเติบโต +50% yoy และ +13% qoq เป็น 1.4 พันล้านบาท จากยอดสินเชื่อโตโดดเด่น +7.5% qoq ตามยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องทุกเดือนและ Funding Cost ที่ลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง และกำไรสุทธิ 1Q56 จะทำระดับสูงสุดใหม่ จากการขายธุรกิจประกันชีวิต(TLIFE) และคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษสูงถึง 6.6 พันล้านบาท